ผลตรวจ “หนุ่มคูเวต” ไม่พบ “เชื้อเมอร์ส”

จากกรณีที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รับตัวชายชาวคูเวตอายุ 18 ปี ที่ี่สงสัยว่า น่าจะป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส เข้ามารับการรักษาและกักตัวเพื่อสังเกตอาการ อยู่ในห้องแยกโรคของสถาบันบำราศนราดูร พร้อมญาติอีก 2 ราย คือ ย่าและบิดาที่เดินทางมาพร้อมกันนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พญ.จริยา แสงสัจจา ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ และจากการเก็บสารคัดหลั่งส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์ ล่าสุดผลปรากฏว่า ไม่พบเชื้อโรคเมอร์สแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามยังจะต้องมีการเก็บสารคัดหลั่งส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์ อีกครั้ง เพื่อดูว่าในร่างกายของผู้ป่วยยังมีเชื้ออยู่อีกหรือไม่ ทั้งนี้ ตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโรค (WHO) มีการระบุว่าในการที่จะประกาศว่าผู้ป่วยหายป่วยจากโรคเมอร์สได้นั้น จะต้องได้ผลตรวจจสารคัดหลั่งตรงกัน 2 ครั้ง ว่าไม่พบเชื้อโรคเมอร์สจึงจะสามารถมั่นใจได้ว่าปลอดเชื้อจริงหรือไม่ ส่วนการจะอนุญาตให้ผู้ป่วยออกจากสถาบันบำราศนราดูรได้ในวันไหนนั้นต้องขึ้นอยู่กับการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ สำหรับผลการตรวจสารคัดหลั่งครั้งที่ 2 คาดว่าจะรู้ผลในวันที่ 1 สิงหาคม นี้

พญ.จริยา กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยชายชาวคูเวตรายนี้ ไม่ค่อยพบอาการอะไรมาก จะมีเพียงอาการไข้เท่านั้น ซึ่งอาจมาจากการที่ผู้ป่วยมีอายุน้อย ทั้งนี้ที่ผ่านมาตัวผู้ป่วยเองให้ความร่วมมือกับทางกระทรวงสาธารณสุขเป็นอย่างดี มีความเข้าใจในการทำงานของกระทรวง และไม่มีการร้องขอสิ่งใด แต่จะมีความกังวลบ้างเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะผู้ป่วยถูกกักตัวอยู่แต่ในห้องแยกโรคซึ่งในภาพรวมผู้ป่วยมีสุขภาพจิตที่ดี อย่างไรก็ตามในส่วนของย่าและบิดาของผู้ป่วยที่ถือว่าเป็นผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูงนั้น ก็มีร่างกายที่แข็งแรงดี ผลการเก็บสารคัดหลั่งตรวจก็ไม่พบเชื้อดังนั้นจึงจะทำการกักตัวเพื่อสังเกตอาการให้ครบ 14 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาของการเพาะเชื้อ หากไม่มีอาการใดก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image