เจ้าของห้อง เร่งย้ายของ หนี ‘หอพักทรุด’ ย่านสมุทรสาคร ด้าน อบต.ประกาศพื้นที่อันตราย

เจ้าของห้อง เข้าขนย้ายสิ่งของมีค่า ขณะที่ อบต.ประกาศพื้นที่อันตราย

สืบเนื่องจากกรณี เกิดเหตุหอพักป้าเยี่ยม ซึ่งเป็นหอพักสูง 3 ชั้น จำนวน 30 ห้อง ตั้งอยู่เลขที่ 125/10 หมู่ที่ 2 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เกิดการทรุดตัวทำให้ตัวอาคารทั้งหมดเกิดการเอนเอียงไปทางด้านหลังซึ่งเป็นหนองน้ำ ส่งผลให้ผู้พักอาศัยเกือบ 60 คน ต้องหนีออกมาอยู่ด้านนอกหอพัก นั้น

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ เพื่อตรวจวัดประเมินว่าตัวอาคารหอพักมีความเสี่ยงเกิดการทรุดตัวลงอีกหรือไม่ ซึ่งก็พบว่ามีการทรุดลงอีกเล็กน้อย แต่ยังพอจะสามารถให้คนเข้าไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นออกมาได้

ทั้งนี้ ต้องเข้าไปทีละคนสองคนเท่านั้น ไม่สามารถเข้าไปพร้อมกันได้ทั้งหมด ดังนั้ นจึงได้มอบหมายให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ที่จะจัดเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยฯ พร้อมทีมงาน เข้าไปกับเจ้าของห้องแต่ละห้อง เพื่อขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นและมีค่าออกมาก่อน ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ อบต.พันท้ายนรสิงห์ จะเข้าขนย้ายให้ในภายหลัง ซึ่งหลังจากที่การประเมินเสร็จสิ้น ทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ก็มีการวางแผนการปฏิบัติงาน ภายใต้คำสั่งของ นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุห้องเช่าทรุดตัว

Advertisement

โดยอันดับแรกได้ประเมินเรื่องของการถ่วงดุลน้ำหนักตัวอาคาร 2 ฝั่งก่อน ถ้าต้องรับน้ำหนักเพิ่มจะต้องเดินอย่างไร จากนั้นเริ่มขนย้ายสิ่งของภายในห้องทางซีกด้านขวา 5 ห้องเพราะทรุดตัวน้อยที่สุด โดยขนย้ายจากชั้นบนไล่ลงมาชั้นล่างสุด จากนั้นทำการประเมินอีกรอบเพื่อขนย้ายในลักษณะเดียวกันทางซีกด้านซ้ายที่มีการทรุดตัวมาก ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จึงจะขนย้ายเสร็จสิ้นทุกห้อง

ส่วนการจัดเตรียมกำลังคนนั้น ได้กำหนดเป็นเจ้าหน้าที่ 1 คน ต่อเจ้าของห้อง 1 คน เข้าไปนำทรัพย์สินมีค่าและสิ่งของที่สำคัญ เช่น เสื้อผ้า เงิน ทอง และเอกสารทางราชการออกมาให้เร็วที่สุด และก็จะมีเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งชุดช่วยนำสิ่งของเครื่องใช้ที่อยู่ในห้องตามออกมาภายหลัง ขณะเดียวกัน องค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์ ก็ได้มีการออกประกาศคำสั่ง 3 ฉบับ ติดไว้หน้ารั้วหอพักดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง (เฉพาะกิจ) กรณีอาคารหอพักสูง 3 ชั้น ทรุดตัว , 2.ประกาศคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขอาคารตามมาตรา ๔๖ วรรคหนึ่ง (กรณีที่อาคารมีสภาพหรือมีการใช้ที่อาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน หรืออาจไม่ปลอดภัยจากอัคคีภัยหรือก่อให้เกิดเหตุรำคาญ หรือกระทบกระเทือนต่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม) และ 3.ประกาศพื้นที่อันตรายอาคารทรุดตัว

Advertisement

ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนผู้ประสบเหตุด้วยนั้น ก็ได้มีการกล่าวให้กำลังใจแก่นางเยี่ยม คำหริ่ม (กลัดเจริญ) เจ้าของอาคาร และผู้ที่เช่าพักอาศัย ซึ่งในโอกาสนี้ได้มอบสิ่งของสำรองจ่าย เป็นผ้าห่ม และชุดเสื้อผ้าสำหรับชายและหญิง ให้ผู้เช่าพักทุกคน

ด้าน นางเยี่ยม คำหริ่ม (กลัดเจริญ) เจ้าของห้องเช่า ก็ได้นำเงินมามอบให้แก่ผู้เช่าที่ต้องหยุดงาน 1 วัน โดยมอบให้คนละ 400 บาท นอกจากนี้ ทางเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ยังจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือตามวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทย ครอบครัวละ 2,000 บาทอีกด้วย โดยในส่วนของ อบต.พันท้ายนรสิงห์ก็จะนำงบฯ ออกมาให้ความช่วยเหลือหลังจากที่มีการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว โดยสามารถช่วยเหลือเป็นเรื่องของค่าเช่าที่พักอาศัยรายละ 1,700 บาท เป็นเวลา 2 เดือน

ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวสรุปผลการดำเนินงานในวันนี้ว่า หลังจากที่วันนี้ได้มีการประชุมร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อหาแนวทางการดำเนินงานตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งจะนำมารวบรวมกระบวนการงานที่ได้สั่งไป ตลอดจนได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วนั้น ในวันที่ 21 สิงหาคม จะมีการมาสรุปผลกันว่า สาเหตุของการทรุดตัวของอาคารในครั้งนี้เกิดจากอะไร

ส่วนนายโยธิน อินทร์อ่อน หัวหน้าชุดปฏิบัติการกู้ภัย อบต.พันท้ายนรสิงห์ เปิดเผยถึงการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่กู้ภัยนั้น ต้องใช้ความชำนาญและความระมัดระวังเป็นพิเศษ ที่จะพาเจ้าของห้องเข้าไปเก็บสิ่งของภายในอย่างปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะต้องประเมินด้วยว่าแต่ละจุดมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

ขณะที่ผู้ที่พักอาศัยเผยว่า รู้สึกโล่งใจที่ได้ขนย้ายสิ่งของสำคัญออกมาแล้ว โดยหลังจากนี้ก็จะไปอยู่ที่เช่าแห่งใหม่ ซึ่งบางคนก็หาห้องเช่าใหม่ได้แล้ว และบางคนก็มีนายจ้างมานำไปพักในโรงงาน เป็นต้น

นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ กล่าวว่า ขณะนี้ทาง อบต.ได้ออกประกาศคำสั่งมาติดแล้ว 3 ฉบับ โดยหลังจากที่ผู้เช่าพักอาศัยได้ขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ออกไปหมด ก็ยังคงต้องกันพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นเขตอันตราย และจะต้องรอผลจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินว่า จะดำเนินการอย่างไรกับอาคารหลังนี้ต่อไป แต่เบื้องต้นคงไม่สามารถที่จะปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาใช้ได้ใหม่ ส่วนการทุบหรือไม่ทุบนั้น ต้องขึ้นอยู่กับทางเจ้าของอาคารแห่งนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image