ผวานักโทษเพิ่งติดคุก8วันตรวจพบเชื้อโควิด เผยเป็นดีเจผับดังย่านถนนข้าวสาร เปิดไทม์ไลน์กลุ่มเสี่ยงเพียบทั้งทนาย-จนท.
เมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา แถลงข่าวพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19เป็นผู้ต้องขังชายไทย 1 รายในเรือนจำ
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ประเด็นที่ 1 การพบผู้ต้องขังติดเชื้อในระหว่างการแยกกักกันในแดนแรกรับก่อนเข้าสู่แดนปกติ ประเด็นที่ 2 เป็นการพบผู้ป่วยรายใหม่ของไทย ซึ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ หลังจากที่ประเทศไทยปลอดการติดเชื้อมานาน 101 วัน ประเด็นที่ 3 การสอบสวนโรค พบผู้มีความเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ ที่มีการกำหนดมาตรการในการกักกัน อย่างไรก็ตามประชาชน อาจมีความกังวล สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1422 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับว่าจะต้องรายงานข้อเท็จแก่ประชาชนอย่างครบถ้วน และห้ามปกปิด เน้นการสื่อสารให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มข้นต่อไป
พญ.วลัยรัตน์ กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 ราย รับทราบข้อมูลมาเมื่อวันที่ 2 กันยายน ซึ่งเป็นการตรวจที่ทางเรือนจำตรวจหาเชื้อผู้ต้องขังในขณะแยกกักกันในแดนแรกรับ ก่อนเข้าแดนปกติ ซึ่งการตรวจผู้ต้องขังทุกรายในแดนแรกรับ ทางราชทัณฑ์ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม หลังจากได้รับรายงานกรมควบคุมโรคได้ตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ด้วยการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ(แล็บ) 2 แห่ง ซึ่งให้ผลว่า มีการติดเชื้อโควิด-19 จริง
“วันนี้ส่งทีมลงไปสอบสวน ทั้งทีมจากกรมควบคุมโรค ทีมจากสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร(กทม.) ร่วมกับทีมของราชทัณฑ์เอง โดยสอบสวนที่เรือนจำและโรงพยาบาลราชทัณฑ์ พบว่าผู้ป่วยรายนี้ เริ่มมีอาการเมื่อ 29 สิงหาคม ด้วยอาการมีเสมหะ อาการไม่ชัดเจน เมื่อวันที่ 2 กันยายน ได้เก็บสิ่งส่งตรวจที่โพรงจมูก ผลพบเชื้อ เมื่อซักประวัติย้อนไป 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม ย้อนไป 14 วัน พบว่า 1.ได้พักกับครอบครัวที่คอนโดมิเนียมบ้านสวนธน พุทธบูชา บางมด โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัว 5 รายและจะต้องแยกกักกันต่อไป 2.การทำงาน เป็นดีเจ ที่ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม3 ในวันจันทร์ พฤหัสบดี และเสาร์ และสาขาพระราม5 ในวันศุกร์และอาทิตย์ และทำงานที่ร้านเฟิร์ส คาเฟ่ แอด ถนนข้าวสาร ด้วยอาชีพดีเจอาจไม่ได้สัมผัสกับผู้อื่น ดังนั้นผู้ที่อยู่ในร้านสวมใส่หน้ากากอนามัย และไม่ได้ใกล้ชิดสัมผัสกับผู้ป่วย ก็จะไม่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในวันที่ผู้ป่วยขึ้นศาลอีก 20 ราย เป็นทนายความ เจ้าหน้าที่เรือนจำ นักโทษร่วมคดีความ และนักโทษที่ร่วมรถโดยสาร และต้องทำการแยกกักกันต่อไป” พญ.วลัยรัตน์ กล่าว
พญ.วลัยรัตน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของราชทัณฑ์แต่ทำการแยกกักกันผู้ต้องขังแรกรับ ซึ่งได้เข้ามาช่วงเวลาเดียวกันกับผู้ป่วยอีก 34 ราย และได้ทำการตรวจหาเชื้อในวันเดียวกันกับผู้ป่วยและไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด ฉะนั้นจึงมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 34 ราย มีอาสาสมัครนักโทษที่เป็นผู้ดูแลอีก 2 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการสอบสวนโรคเพิ่มเติม และยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้นข้อมูลบางอย่างก็จะมีการรายงานในครั้งต่อไป
ด้านพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ขอรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำ โดยขณะนี้พบผู้ต้องขังชายคดี พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษอยู่ระหว่างพิจารณา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย ซึ่งทางทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เป็นผู้รับตัวไว้เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563 และเข้ารับการกักกันตัวในห้องแยกโรคตามนโยบายกรมราชทัณฑ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่อว่า โดยเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เข้าตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 กลุ่มผู้ต้องขังรับใหม่ภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางเป็นประจำทุกประจำสัปดาห์ จึงได้พบว่ามีผู้ต้องขังเข้าใหม่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย ดังกล่าวจากนั้นกรมราชทัณฑ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อหาสาเหตุการติดเชื้อในผู้ต้องขังรายนี้เป็นการเร่งด่วนแล้ว และได้สั่งการให้ย้ายผู้ติดเชื้อไปเข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทันที และย้ายผู้ต้องขังที่ได้รับการกักตัวในหอแยกโรคของทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางที่อยู่ในหอนอนเดียวกัน ไปแยกกักกันโรคต่อจนครบ 14 วัน ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วยเช่นกัน
“ซึ่งในวันนี้กรมควบคุมโรคและสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองเข้าสอบสวนโรค และส่งตรวจเลือด กลุ่มผู้ต้องขังที่อยู่หอนอนเดียวกัน 34 คน โดยผู้ต้องขังที่พบผลบวก 1 ราย ได้เก็บส่งตรวจเพื่อเพาะเลี้ยงเชื้อโควิด- 19 แยกประเภทเชื้อเป็น หรือเชื้อตาย ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ต้องขังรายนี้ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ ไม่เคยสัมผัสผู้ติดเชื้อก่อนเข้าเรือนจำ ประกอบอาชีพดีเจ ย่านพระราม 3 และ พระราม 5 พร้อมนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยังได้เข้าตรวจกลุ่มเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ต้องขังดังกล่าวอีกด้วย”พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าว
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องขังรายนี้ เป็นผู้ต้องขังรับใหม่เข้ามาอยู่เรือนจำได้เพียง 8 วัน และยังอยู่ระหว่างการแยกกักโรค 14 วัน ตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์ มิได้สัมผัสกับผู้ต้องขังเก่าในเรือนจำแต่อย่างใด อีกทั้ง ผลการตรวจดังกล่าวยังไม่สามารถยืนยันว่าผลตรวจหาสารพันธุกรรมเชื้อโควิด- 19 ของผู้ต้องขังรายนี้ เป็นผลบวกต่อเชื้อที่มีชีวิตหรือผลบวกต่อเศษซากเชื้อที่ตายแล้ว หากผลการตรวจเป็นประการใด กรมราชทัณฑ์ จะได้รายงานและแจ้งให้ประชาชนทราบอีกครั้งหนึ่ง และกรมราชทัณฑ์ ยังคงมีมาตรการในการควบคุมและป้องการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำอย่างเคร่งครัดต่อไป
