ตามที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) อายุ 64 ปี ได้มอบอำนาจให้นายสัก กอแสงเรือง ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน อายุ 64 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 จากกรณีการตรวจสอบโครงการไฟประดับมูลค่า 39,500,000 บาทนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้มอบหมายให้ทนายส่วนตัวยื่นฟ้องร้องต่อ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งได้ยื่นฟ้องเป็นโจทก์เป็นการส่วนตัว ไม่ได้ใช้ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.พ่วงเข้าไป เหมือนกับ นายพิศิษฐ์ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยื่นฟ้องเป็นจำเลยนั้นก็ฟ้องส่วนตัว ไม่ได้ฟ้องพ่วงว่าเป็นผู้ว่าสตง. แต่อย่างใด สำหรับข้อหาที่ยื่นฟ้อง คือ กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 นอกจากนี้ กรณีที่นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯกทม. ที่จะยื่นฟ้องร้องต่อศาลอาญาเป็นการส่วนตัวโดยจะฟ้องร้อง นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีตส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ ในฐานกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา โดยนายอมรจะให้ทนายคนเดิมเป็นผู้ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลอาญาภายในสัปดาห์นี้
ด้าน นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ทราบเบื้องต้นเท่านั้นว่ามีการฟ้อง แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด ทั้งนี้การจะฟ้องร้องถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ทำได้ คงไม่สามารถขอร้องหรือควบคุมใครว่าไม่ให้ฟ้องร้องได้แต่ยืนยันว่าได้ทำตามหน้าที่ เพราะต้องการให้ข้อมูลตามหลักธรรมาภิบาล ส่วนการฟ้องร้องเป็นการส่วนตัวนั้น มองว่าจะฟ้องส่วนตัวหรือหน่วยงานก็ไม่แตกต่างกัน เพราะตำแหน่งผู้ว่าสตง.เป็นตัวแทนของสตง. หน้าที่ในการแถลงข่าวหรือดำเนินการเป็นของตนที่ต้องรับผิดชอบ โดยการตรวจสอบและการแถลงข่าวของตนก็ดำเนินการตามข้อเท็จจริง ไม่มีการใส่ร้ายแต่อย่างใด เพราะการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐต้องโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลอยู่แล้ว การบิดเบือนข้อเท็จจริงจึงทำไม่ได้ง่ายๆ ซึ่งการทำงานของ สตง.นั้นเพื่อตอบคำถามของสังคมที่มีความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องการใช้งบประมาณ เพราะหน่วยงานรัฐใช้เงินงบประมาณของแผ่นดินซึ่งมาจากประชาชน การใช้เงินจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่มีความลับ และการเปิดเผยข้อมูลของ สตง.เป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งตามหน้าที่ สตง.ก็ดำเนินการตรวจสอบหน่วยงานรัฐทั้งหมด
“กทม. ก็เป็นหน่วยงานภาครัฐที่ใช้งบประมาณของแผ่นดิน เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่น เพียงแต่เป็นหน่วยงานที่เป็นข่าวในหลายเรื่อง ผมมีภาระต้องตอบทุกเรื่องที่ผู้สื่อข่าวและประชาชนสงสัย และมีการตรวจสอบหาข้อมูลตามขั้นตอนไม่ใช่อยู่เฉยๆแล้วก็มาแถลง ซึ่งที่ผ่านมามีการแถลงข่าว 2 ครั้ง และแถลงตามข้อเท็จจริง มีหลักฐานถ้ากทม.ชี้แจงได้ก็ชี้แจงไป” นายพิศิษฐ์ กล่าว