บิ๊กปั๊ด ให้นโยบายผู้บังคับบัญชา ต้องสร้างโอกาสให้ลูกน้อง ส่งต่อดีเอ็นเอให้ตร.รุ่นหลัง

“บิ๊กปั๊ด” เผย ไม่คาดหวังเป็น ผบ.ตร. ครูดีที่สุดคือ “ความผิดพลาด” ให้นโยบาย ผู้บังคับบัญชา ต้องสร้างโอกาสลูกน้อง ถ่ายทอดดีเอ็นเอที่ดี ให้ตำรวจรุ่นหลัง

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวในตอนหนึ่ง ของการมอบนโยบายให้ข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.)-ผู้บังคับการ (ผบก.) ว่ามีคนถามตนว่าจะฝึกตำรวจอย่างไร ตนตอบว่า อย่างแรกให้ปรับทัศนคติก่อน เราขาดเรื่องทักษะการสื่อสารกับประชาชน เพราะเราถูกออกแบบมาให้บังคับใช้กฎหมาย แต่ในขณะนี้บังคับใช้กฎหมายในบางบทบาทที่เราต้องบริการ ตกลงเราพูดแบบผู้ให้บริการหรือผู้บังคับใช้กฎหมาย เราไปสั่งให้เขาวางอาวุธ เราต้องออกคำสั่งให้เด็ดขาด แต่เวลาเราขอดูใบขับขี่ ต้องมีศิลปะในการสื่อสาร มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เรื่องพวกนี้ต้องเรียน ต้องอบรม ทำให้ดีให้ได้

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตนรับราชการมาถึงวันนี้ 37 ปี ดำรงตำแหน่งทุกระดับตำแหน่งในกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ตั้งแต่รองสารวัตร สารวัตร รองผู้กำกับการ ผู้กำกับการ รองผู้บังคับการ ผู้บังคับการ รองผู้บัญชาการ ยกเว้นเป็น ผบช.น. ชีวิตตนไม่ได้ราบรื่น ตอนเด็กๆ ยศร้อยตำรวจตรี เป็นรองสารวัตรอยู่ 3 ที่ จากสน.หัวหมาก จากนั้นเป็นนายเวรผู้บัญชาการกองพลาธิการ และเป็นรองสารวัตรสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลพระนครเหนือ เป็นรองสารวัตรอยู่ 9-10 ปี ได้เป็นสารวัตร ยังติดยศ พ.ต.ต. ไม่ได้ เพราะว่ารับราชการ 3-4 ปี ไม่ทำงาน ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ แต่ไม่เคยเสียใจ ไม่ใช่ว่าไม่สำนึก แต่รู้สึกว่าสิ่งที่ได้กลับมามันคุ้มค่ามากกว่า

“ชีวิตผมเรียนรู้อะไรหลายอย่างตอนเป็นรองสารวัตร ข้อแรกต้องมีพี่เลี้ยงที่ดี ต้องมีตัวแบบ นักเรียนจบมาใหม่ ต้องหาสถานที่ทำงานที่มีตัวแบบที่ดี ถ้าพี่พาไปไหน น้องก็ไปแบบนั้น ถ้าพี่กินเหล้าเที่ยวเตร่เฮฮา น้องก็ไปแบบนั้น ถ้าพี่พาไปตีไก่ข้างถนน น้องก็เป็นแบบนั้น ถ้าพี่ขยัน สั่งสอนเรื่องการทำสำนวนสอบสวน น้องก็เป็นแบบนั้น ผมโชคดีที่ล้มเหลวหลายเรื่องในชีวิต ครูที่ดี ที่สุดในชีวิตผม คือความผิดพลาด ถ้าผมไม่รอดวันนั้น ผมไม่ได้มายืนตรงนี้ และผมไม่เคยคิดจะเป็น ผบ.ตร. ถ้าตอนนั้นใครมาบอกผมว่า ผมจะเป็น ผบ.ตร. ผมคงขำลงไปนอนตาย เพราะได้เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่สิ่งที่ได้รับคือบทเรียนความผิดพลาดในชีวิตเป็นครูที่ดี ผมเรียนรู้ว่าเราต้องหาตัวแบบที่ดีให้กับเด็กๆ ต้องหาครูที่ดีให้เด็กๆ สมัยเป็นสารวัตรอยู่สืบสวนเหนือ ครูของตนคือ พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ไม่ได้สอนอะไรเลย แต่ที่ทำให้คือ ให้โอกาสเราทำในสิ่งที่อยากทำ สิ่งที่ได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งคือ ตำแหน่งแห่งที่ไม่ใช่รางวัลชนิดเดียวที่จะให้กับลูกน้องหรือใครก็ตาม แต่การให้โอกาสก็เป็นรางวัลอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้นท่านต้องสร้างโอกาสให้กับทุกคน”พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า คนเราไม่ได้มีโอกาสเท่ากัน ตนเคยเป็นพนักงานสอบสวนที่มีสำนวนค้างอันดับ1 ของกรุงเทพมหานคร สิ่งที่ผมทำ คือไปสนใจงานไล่จับผู้ร้าย มีคดีเล็กๆ ที่ไปจับขยายผลจนเสี่ยงติดคุก “สิ่งที่ได้คือความสุขเล็กๆ ของความสำเร็จ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครจำ แต่เราจำ” มันไม่ใช่เรื่องตำแหน่งแห่งที่ ตนก็อยากให้เด็กรุ่นหลัง มีโอกาส อยากเห็นภาพที่ใครหลายคนอยากเป็นเหมือนคนนั้น คนนี้ อยากโตในสายงานสืบสวน งานอำนวยการ หรืองานอะไรก็ตาม ตนไม่อยากได้ยินว่าทำอย่างไรจะเป็นสารวัตรเร็วๆ ทำอย่างไรจึงจะมีเงินใช้ เราต้องมีระบบความคิดใหม่ มองหันหลังกลับไป ใครที่จะมารับไม้ต่อจากเรา ตำรวจต้องมียี่ห้อ มีแบรนด์ ใครพูดถึงต้องจำได้ว่าเก่งงานด้านไหน ไม่อยากได้ยินว่าคนนี้มือหนัก คนนี้เคลียร์ทุกเรื่อง เราไม่เอาแบบนั้น

Advertisement

ตนเสียดายเวลาความรู้สึก ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ แต่ความสุขในชีวิตรับราชการของตน ไม่ใช่การขึ้นมาเป็น ผบ.ตร. ตนมีความสุขเวลาอยู่กับเพื่อนๆ ไปทำงานคดีด้วยกัน ไปนอนตากน้ำฝน ไปเฝ้าคดี 3 วัน 7 วัน อารมณ์แบบนั้นมายืนบนนี้มันอาจจะไม่มีแล้ว แต่ตนก็ต้องทำหน้าที่นี้ อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวตนไม่ใช่ ผบ.ตร. เป็นแค่ตำรวจคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ ผบ.ตร. และมีเวลาสั้นๆ แค่ 2 ปี ตนทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน ตนอยากให้พวกเรามีความสุขประสบความสำเร็จกับการทำงานมากกว่าได้รับตำแหน่งแห่งที่ ซึ่งมันไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดชีวิต ก็หวังว่าเราจะมาช่วยกันทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้น และช่วยถ่ายทอดดีเอ็นเอที่ดี ที่ถูกต้อง ให้ตำรวจรุ่นหลัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image