วันที่ 8 สิงหาคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การบุกรุกทรัพยากรป่าไม้อย่างรุนแรงทั่วประเทศ ทำให้รัฐบาลต้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขเร่งด่วน เพื่อป้องกันและปราบปรามการบุกรุกป่าจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลและกลุ่มนายทุน ซึ่งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทั้งการออกลาดตระเวนและการเข้าจับกุมผู้กระทำผิด บ่อยครั้งที่เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้กระทำความผิด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่าได้รับบาดเจ็บ หลายเหตุการณ์ที่ผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธี จนส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการหนักมากขึ้นหรือเสียชีวิต ดังนั้น จึงได้สั่งการให้กรมป่าไม้จัดตั้งชุดปฏิบัติการป่าไม้เสนารักษ์ พร้อมจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการปฏิบัติการปฐมพยาบาลเพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และเป็นการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
รัฐมนตรี ทส.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้มอบอาวุธปืนลูกซองกึ่งอัตโนมัติ จำนวน 445 กระบอก และรถยนต์บรรทุกดีเซลขับเคลื่อน 4 ล้อ จำนวน 79 คัน ให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ากรมป่าไม้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงาน และได้กำชับว่าการนำอาวุธปืนไปใช้ในการปฏิบัติงาน ขอให้พึงระลึกว่า ปืนเป็นอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงต้องใช้อย่างระมัดระวัง ให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่ระบุไว้ในระเบียบกฎหมาย
ด้านนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้จะนำเจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่าของกรมป่าไม้ 30 คน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 20 คน และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 10 คนเข้าร่วมการฝึกอบรม เน้นให้ผู้ฝึกมีความรู้ในหลักการของการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การใช้เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนการใช้เวชภัณฑ์รักษาโรคได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยใช้ทางน้ำ ในการลำเลียงผู้บาดเจ็บออกนอกพื้นที่ นอกจากการเรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นยังมีการฝึกภาคปฏิบัติเพื่อเพิ่มสมรรถนะทางร่างกาย เช่น ฝึกวิธีการดำรงชีพในป่า และการฝึกการออกลาดตระเวน เพื่อให้พร้อมรับกับภารกิจที่เกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการป่าไม้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
