เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นายธีรพล ขุนเมือง โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะกรมการจัดหางาน (กกจ.) และ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) บูรณาการเพื่อส่งเสริมกุ๊กไทยไปทำงานต่างประเทศให้มากขึ้นตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยเน้นมาตรฐานรสชาติอาหารที่คงเอกลักษณ์ไทย ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศที่คนไทยนิยมไปทำงานมากที่สุด 10 ลำดับแรก คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ อังกฤษ นิวซีแลนด์ เกาหลี อิสราเอล เยอรมนี มาเลเซีย และสวีเดน
“ในปี 2558 สำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น มีการรับรองเอกสารสัญญาจ้างผู้ปรุงอาหารไทยแล้ว จำนวน 110 คน และในปีนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 –เดือนมิถุนายน 2559 ไปทำงานแล้ว 86 คน ส่วน กพร.ได้มีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาผู้ประกอบอาหารไทยเพื่อมุ่งเน้นพัฒนาทักษะทั้งด้านบริการและมาตรฐานของรสชาตินั้น จะต้องเน้นการฝึกทักษะภาษาให้สามารถสื่อสารกับนายจ้างให้เข้าใจกันด้วย” นายธีรพล กล่าวและว่า นอกจากนี้ พล.อ.ศิริชัยยังให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกให้กุ๊กไทยสามารถเดินทางไปทำงานในแต่ละประเทศได้คล่องตัวขึ้น เนื่องจากบางประเทศไม่ได้กำหนดประสบการณ์การทำงาน แต่บางประเทศกำหนดชัดเจน โดยเฉพาะญี่ปุ่นจากเดิมผู้ที่เดินทางไปเป็นกุ๊กจะต้องมีประสบการณ์ 10 ปี แต่ปัจจุบันได้ปรับลดเหลือ 5 ปี และต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาผู้ประกอบอาหารไทย ระดับ 1 ของ กพร.
นายธีรพล กล่าวอีกว่า ร้านอาหารไทยในญี่ปุ่นมีประมาณ 700 แห่ง ยังมีความต้องการกุ๊กไทยอีกจำนวนมาก โดยมีรายได้เดือนละประมาณ 150,000 – 210,000 เยน พร้อมสวัสดิการตามข้อตกลงและค่าล่วงเวลา นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นยังมีการสอนประกอบอาหารไทย โดยอาจารย์ชนม์สิตา ดำรงค์ถิระรัตน์ ผู้เขียนหนังสือ “ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาหารไทย” ณ สถาบันวัฒนธรรมไทยศึกษา กรุงโตเกียว ด้วย ผู้สนใจขอรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0 2245 0978 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1694
