กรมอนามัยประกาศ ‘องค์กรต้นแบบเลี้ยงลูกด้วยนมแม่’ หนุน อสม.ร่วมขับเคลื่อน

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานเปิดงานรวมพลคนกินนมแม่ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา พร้อมทั้งกล่าวคำปฏิญาณกรมอนามัย “สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่” ดังนี้ 1.ให้ความรู้ ทักษาแก่มารดาช่วงตั้งครรภ์ คลอด และหลังคลอดในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 2.เยี่ยมบ้านมารดาหลังคลอดโดยเฉพาะในช่วง 7 วันหลังคลอด เพื่อให้การช่วยเหลือสนับสนุน เป็นกำลังใจให้แม่เริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จ และให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวจนครบ 6 เดือน และกินนมแม่ต่อเนื่องเสริมด้วยอาหารตามวัยจนลูกอายุ 2 ปี หรือมากกว่า 3. จัดให้มีอาสาสมัครสาธารณสุขสาขานมแม่ ประจำครอบครัว สัดส่วนอาสาสมัครสาธารณสุข 1 คน ต่อ 10 ครอบครัว 4.ส่งเสริมให้องค์กรหรือหน่วยงานเป็น “องค์กรต้นแบบส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่” และ5.เร่งรัด และสนับสนุนให้เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบลจัดทำแผนตำบล “พัฒนาการเด็กดีเริ่มที่นมแม่”

นมแม่_9755

นพ.วชิระ กล่าวว่า กรมอนามัยขอประกาศเป็นต้นแบบองค์กรต้นแบบส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และขอเชิญชวนให้องค์กรหรือหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และภาคีภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ฯลฯ ร่วมโครงการดังกล่าวเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ โดยผู้เข้าร่วมมีข้อกำหนดแนวทางปฏิบัติ คือ 1. สนับสนุนให้ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ทุกคนของกระทรวงสาธารณสุขเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนและกินนมแม่ต่อเนื่องเสริมด้วยอาหารตามวัยจนลูกอายุ 2 ปี 2.มีนโยบายให้แม่หลังคลอดลาพักเลี้ยงลูกได้อย่างน้อย3 – 6 เดือนโดยได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน 3.มีมุมนมแม่หรือศูนย์เลี้ยงดูเด็กวัยเตาะแตะอายุ 3 เดือน – 2 ปี 6 เดือน ในที่ทำงาน และ 4.อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ของบุคคลในองค์กรหรือน้อยงานต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 50

นพ.วชิระ กล่าวต่อว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีแรกเป็นช่วงที่สมองกำลังพัฒนาสูงสุด เพราะทำให้สมองเด็กได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ จอประสาทตา เด็กสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพราะนมแม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์กว่า 200 ชนิด ผลวิจัยทั่วโลกยืนยันตรงกันว่าเด็กที่กินนมแม่จะมีไอคิวสูงกว่าเด็กที่ไม่ได้กิน 5 – 11 จุด นอกจากนี้ยังมีผลทำให้อีคิวดีขึ้นด้วย แต่จากผลสำรวจอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนของไทยปี2555 อยู่ที่ร้อยละ 12.3 ติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนน้อยที่สุดของโลก เพราะมีอุปสรรคหลายด้าน โดยเฉพาะ จากการโฆษณาของบริษัทผลิตภัณฑ์นมผง อวดอ้างสรรพคุณ โน้มน้าว เปรียบเทียบ จูงใจว่านมผงมีสารอาหารช่วยให้เด็กฉลาด แข็งแรง ทำให้แม่เข้าใจผิด พลาดโอกาสทองเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

Advertisement

“ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐก็พยายามรณรงค์ส่งเสริมให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว จนผลการสำรวจล่าสุดปี 2558 พบการดื่มนมแม่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23 แต่ก็ตั้งเป้าว่าอยากให้มีการดื่มนมแม่อย่างเดียวช่วง 6 เดือนแรกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ขณะเดียวกันกรมอนามัยกำลังผลักดันร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ…เพื่อควบคุมผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่าย ทำการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กอย่างเหมาะสม ไม่มีการโฆษณา ไม่มีการส่งเสริม การขาย เช่น แจกตัวอย่าง แจกสิ่งของ อุปกรณ์ที่เชื่อมโยงไปยังผลิตภัณฑ์ และจัดกิจกรรมต่าง ๆ แก่แม่และครอบครัว เพื่อโน้มน้าวให้ใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ซึ่งขณะนี้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เบื้องต้นหากพบว่าบุคลากรทางการแพทย์มีส่วนส่งเสริมการตลาดจะมีโทษด้านจริยธรรม ส่วนผู้ประกอบการมีโทษจำ 3 เดือน ปรับ 3 แสนบาท” นพ.วชิระ กล่าว

56

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image