สธ.เผยผู้บาดเจ็บเหตุระเบิดรักษาตัวในรพ. 22 ราย ย้ำรัฐดูแลค่ารักษาทั้งหมด

นพ.โสภณ เมฆธน

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุระเบิด เมื่อวันที่ 11-12 สิงหาคม 2559 ว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับดูแลรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดและไฟไหม้ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ณ เวลา 10.00 น. มีผู้บาดเจ็บนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล รวม 22 ราย คนไทย 14 ราย ต่างชาติ 8 ราย กลับบ้าน 1 ราย ทุกรายอาการปลอดภัย และอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด สำหรับเรื่องการรักษาพยาบาล นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับให้ดูแลรักษาผู้บาดเจ็บทุกรายอย่างเต็มที่ สำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลนั้นทางรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

นพ.โสภณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการดูแลเยียวยาด้านจิตใจผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัย ลงพื้นที่ดูแลจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรง โดยผลการเยี่ยวยาจิตใจผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่จ.ตรัง สุราษฏร์ธานี และประจวบคีรีขันธ์ ผู้บาดเจ็บและญาติ ยังอยู่ในภาวะตระหนก วิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนครอบครัวผู้เสียชีวิต ยังอยู่ในภาวะเศร้าโศกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัว ทั้งนี้ทีมสุขภาพจิตจะให้การติดตามประเมินสภาวะจิตใจของผู้บาดเจ็บ และสูญเสียอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหากผู้สูญเสียหรือผู้ใกล้ชิด รู้สึกมีอาการซึมเศร้ารุนแรง ควรรีบปรึกษาสถานบริการสาธารณสุขที่ใกล้บ้านทันทีเพื่อรับการดูแลรักษาที่ถูกต้องต่อไป หรือโทรรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า กรณีนี้เป็นกรณีอุบัติเหตฉุกเฉิน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียวได้ทันที เพื่อให้ผู้บาดเจ็บได้รับการรักษาทันท่วงที และ รพ.ที่ให้การรักษาผู้บาดเจ็บไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งแม้ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการจัดระบบใหม่ แต่ในส่วนของการเบิกจ่ายนั้น รพ.ยังส่งเบิกมาที่ สปสช.ที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรกรรมเบิกจ่ายหรือ Clearing House ตามกฎเกณฑ์เดิมไปก่อน สำหรับผู้บาดเจ็บจากทุกสิทธิที่ถูกส่งเข้ารับการรักษาใน รพ. เมื่ออาการพ้นขีดอันตรายแล้วจึงจะส่งตัวกลับไปรักษาต่อที่ รพ.ตามสิทธิต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image