รองผบ.ตร. ประชุมร่วมทหาร ปกครอง สกัดขบวนการขนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ป้องกันโควิด-19ระบาด เจอคนมีสีไม่ละเว้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ธันวาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.)ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนปราบปรามเครือข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นประธานการประชุมนัดแรก ร่วมกับผู้แทนเหล่าทัพ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลมีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดตั้งศูนย์สืบสวนปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. แต่งตั้งให้ตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมกับ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน มี ผบช.สตม. ผบช.ก. ผบช.ส. ผบช.ทท. ผบช.ภ.1-9 ผบช.น. และ ผบก.สส.บช.น. บูรณาการทำงานร่วมกันกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตร. จะเน้นหนักไปที่การสืบสวนจับกุมกระบวนการและการขนย้ายแรงงานต่างด้าวข้ามพื้นที่ ยืนยันว่าหากเกี่ยวข้องกับคนมีสีก็ไม่มีการละเว้น พร้อมตรวจสอบคัดกรองคนต่างด้าวเพื่อเข้าสู่ระบบการสอบสวนโรคตามแนวทางสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนเส้นทางธรรมชาติ กองทัพจะเป็นเจ้าภาพหลัก ซึ่งช่วงนี้จะเน้นชายแดนไทย-เมียนมา เพราะประเทศเมียนมายังมีการระบาดของโรคโควิด-19 และมีแรงงานเข้ามาประเทศไทยมากที่สุด สำหรับการปฎิบัติงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ถือว่ามีผลที่น่าพึงพอใจ เพราะมีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการปฏิบัติในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ 1 มกราคม – 30 พฤศจิกายน 2563 สามารถจับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 23,381ราย, จับกุมผู้นำหรือพา คนต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย จำนวน 344 ราย, จับกุมผู้ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น คนต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย จำนวน 720 รายและเฉพาะเดือนธันวาคม 2563(ระหว่างวันที่ 1-28 ธันวาคม 2563) จับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 547 ราย จับกุมผู้นำหรือพาคนต่างด้าวโดยผิดกฎหมายจำนวน 21 ราย, จับกุมผู้ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น คนต่างด้าวโดยผิดกฎหมายจำนวน 117 ราย มี การระดมกวาดล้างขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวตามหมายจับ จำนวน 4 หมายจับ (CCOC)
ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไปร้อง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ว่ามีตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครอง มีส่วนเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์กับขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ เพราะเพิ่งได้รับเรื่องมาจาก ปปป.
