เปิดตัว’ข้าวเคลือบสมุนไพร’3 กลุ่มวัย-บำรุงผู้ป่วยพักฟื้น กินอย่างไรให้สุขภาพดี  

เมื่อวันที่ 15  สิงหาคม ที่ลานอเนกประสงค์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าว “มหานครแห่งสมุนไพรร่วมสมัย (Thai Herbs Metropolis)” ว่า งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 13 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-4 กันยายน 2559 ที่อาคารอิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้กรอบแนวคิดการจัดงานว่า “สมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย อนาคตไทย” โดยปีนี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นการจัดแสดงศักยภาพของสมุนไพรไทยที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยสมาคมผู้ผลิตยาสมุนไพร สมาคมอุตสาหกรรม สมาคมอาหารเสริมแห่งประเทศไทย สมาคมนักเคมีเครื่องสำอางแห่งประเทศไทย และเครือข่ายอีกกว่า 30 องค์กรร่วมนำผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่มีการพัฒนาในกลุ่มยา อาหารเสริม เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ทั้งที่จำหน่ายในประเทศและส่งออกจำหน่ายในต่างประเทศมาจัดแสดงภายในงานมหกรรมครั้งนี้

นพ.สุริยะกล่าวอีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนวัตกรรมที่มีการพัฒนาร่วมสมัยกับภูมิปัญญาไทย อย่างนวัตกรรมข้าวเคลือบสมุนไพร ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนในการพัฒนาเทคนิคการเคลือบสมุนไพรเชิงซ้อน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยข้าวเคลือบสมุนไพรดังกล่าวมีความพิเศษตรงแต่ละชนิดเหมาะกับแต่ละกลุ่มวัยที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น “3 วัย” และอีก 1 กลุ่มเฉพาะ ได้แก่ 1.วัยผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นวัยเริ่มเสื่อมถอย ตาฝ้าฟาง โรคที่เป็นคือ เบาหวาน ความดัน ไขมันสูง และสมองเริ่มเสื่อมโทรม ข้าวของกลุ่มวัยนี้ควรเป็นข้าวกล้อง ซึ่งมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ดูดซึมน้ำตาลน้อย และมีสารกาบาช่วยบำรุงสมอง โดยเคลือบด้วยสมุนไพรหลายชนิด อาทิ บัวบก บำรุงสมอง, ขมิ้นชัน มีสารต้านอนุมูลอิสระ, พริก ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและแป้ง, ฟักข้าวและมะเขือเทศ มีไลโคปีนมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, น้ำมันถั่วอินคา มีโอเมก้า 3 โดยทั้งหมดจัดเป็นยาอายุวัฒนะ

S__3760631

นพ.สุริยะกล่าวอีกว่า 2.วัยรุ่น ซึ่งมีปัญหาทางโภชนาการซึ่งมีทั้งขาดและเกิน การขาดที่สำคัญคือการขาดธาตุเหล็กจนทำให้เกิดโรคโลหิตจาง ภาวะของการขาดโปรตีนและพลังงาน ส่งผลให้การเจริญเติบโตทางด้านสรีระ เจริญไม่เต็มที่จนก่อให้เกิดการแคระแกร็นของร่างกายขึ้น หรือตัวเตี้ย ภาวะโภชนาการเกินที่ก่อให้เกิดโรคอ้วนและนำมาซึ่งโรคเรื้อรังต่างๆ รวมทั้งการก่อให้เกิดโรค ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจด้วย ดังนั้นควรรับประทานข้าวขาวหอมมะลิ พันธุ์ที่มีดัชนีน้ำตาลสูง เพื่อให้ได้แคลอรีสูง ให้พลังงานสูงเพราะเป็นวัยที่มีการเคลื่อนไหวมาก โดยสมุนไพรที่นำมาเคลือบจะเป็นสารกลูโคแมนแนน จากบุกทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ลดน้ำหนักในวัยรุ่นได้ และยังช่วยแก้ปัญหาท้องผูก ระบบขับถ่ายดีขึ้น นอกจากนั้นยังมีฟักข้าวและมะเขือเทศ มีไลโคปีน มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น

Advertisement

S__3760630

“3.วัยทำงาน ซึ่งเป็นวัยที่มีความเครียดจากการทำงาน และเครียดกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในการเสื่อมถอย กลัวอ้วน ไม่กระปรี้กระเปร่า ควรรับประทานข้าวกล้องที่มีสารกาบาสูง มีผลช่วยลดความดันโลหิต ลดไขมันไม่ดี ลดอาการถดถอยของความจำ หลงลืมง่าย โดยสมุนไพรที่นำมาเคลือบคือ สารสกัดส้มแขก ซึ่งช่วยป้องกันการดูดซึมไขมัน เพิ่มการสลายกรดไขมัน และช่วยลดความอยากอาหาร อัญชัน ลดน้ำตาล ช่วยเรื่องเบาหวาน ขมิ้นชัน มีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น และ 4.ผู้ป่วยระยะพักฟื้นและนักกีฬา ความสำคัญของการรับประทานอาหารระหว่างการพักฟื้นของผู้ป่วยและนักกีฬาที่แข่งขันหรือซ้อมหนัก ไม่ด้อยไปกว่าแผนการรักษาโดยการใช้ยารักษาโรค ข้าวสำหรับผู้ป่วยพักฟื้น ประกอบด้วยข้าวไรซ์เบอรี่ เป็นข้าวสายพันธุ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ทั้งชนิดที่ละลายในน้ำและละลายในไขมัน มีธาตุเหล็ก สังกะสี เหมาะกับผู้ป่วยพักฟื้นในการช่วยบำรุงร่างกาย เคลือบด้วยสารสกัดอัญชัน กระเจี๊ยบแดง ฟักข้าว มะเขือเทศ น้ำมันถั่วดาวอินคา พวกนี้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระและบำรุงร่างกายได้ แต่ทั้งหมดไม่ใช่ว่ากินข้าวอย่างเดียวจะเพียงพอ ต้องกินอย่างหลากหลายและถูกหลักโภชนาการ มีทั้งโปรตีนจากปลา ผัก และผลไม้ รวมทั้งร่างกายต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอด้วย” นพ.สุริยะกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้าวเคลือบสมุนไพรนั้นจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางภายในมหกรรมสมุนไพรไทย โดยได้จดสิทธิบัตรกรรมวิธีเคลือบสมุนไพรเชิงซ้อนแล้ว นอกจากนี้ ภายในงานยังมีผลิตภัณฑ์ไทยมากมาย ทั้งนวัตกรรมยาหอมไทย ชาใบเมี่ยงเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image