เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตามที่ สธ.ได้หารือร่วมกับกระทรวงยุติธรรมเรื่องการโอนย้ายผู้ติดยาเสพติดให้ สธ.ดูแล เบื้องต้นจะค่อยๆ ดำเนินการโอนย้าย คาดว่าจะใช้เวลา 1-3 ปี ส่วนรายละเอียดว่าจะโอนผู้ป่วยกลุ่มแรกจำนวนเท่าใด จะกำหนดกลุ่มผู้ป่วยอย่างไรบ้างนั้น จะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สธ.มีการเตรียมความพร้อมรับมือเรื่องการดูแลแล้วบ้างส่วน และอยู่ในระยะของการลงรายละเอียด เช่น การตั้งทีมขึ้นมาดูแลในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ การอนุมัติเพิ่มอัตรากำลังคนในสังกัดกรมสุขภาพจิตเพื่อรองรับภาระงานที่เพิ่มขึ้น
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าวว่า จากการสำรวจสุขภาพจิตของผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ต้องขังในคดีทุกประเภทรวมถึงคดียาเสพติดด้วยนั้น พบว่ามีปัญหาสุขภาพจิตกว่าร้อยละ 30 บางคนมีปัญหาติดยาเสพติดร่วมกับปัญหาทางด้านจิตเวช ทั้งนี้ การโอนถ่ายผู้ป่วยติดยาเสพติดในนั้นอาจจะเพิ่มภารงานมากขึ้น อย่างทั่วประเทศมีเรือนจำ 143 แห่ง แต่มีโรงพยาบาลจิตเวชเพียง 17 แห่ง เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้มีการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐในการตรวจและบำบัดผู้ติดยาเสพติด แต่เบื้องต้นอยากให้มีการเพิ่มอัตรากำลังคนมากพอสมควร เนื่องจากปัจจุบันคนไม่พออยู่แล้ว
