ทนายอนันต์ชัย-7 องค์กรคนพิการ จี้ ‘ปารีณา’ ขอโทษ-หยุดดำเนินคดีคนออทิสติก ชวนลงชื่อสอบความประพฤติ
จากกรณี ก้อย-อรัชพร โภคินภากร นักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง โพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมข้อความ “คนอื่นเขาไม่ใช่แบบท่านนะค้า ที่อยู่บ้าน 14-15 วันเฉยๆ แล้วมีเงินใช้หนะค่า” เป็นเหตุให้ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความตอบโต้ ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งว่า “ก้อย อัชราพร คือ…ใคร ดาราหน้าแบ๊ว หรือออทิสติก กันแน่ จึงได้เล่นเป็นแค่ตัวตลก @ตลกหกฉาก” จนทำให้สังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์ หนึ่งในนั้นคือ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ซึ่งมีลูกเป็นออทิสติก ได้ออกมาโพสต์ปกป้องคนที่เป็นออทิสติก ไม่เคยสร้างปัญหาใดๆ และเกิดการตอบโต้กัน ก่อน น.ส.ปารีณาจะเข้าแจ้งความที่ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี นั้น
จากข่าว
– ‘ปารีณา’ จวก ‘ก้อย อรัชพร’ ได้เล่นแค่ตลกหกฉาก โหนบิ๊กตู่ดัง ฝากนิกกี้ตีฐานทัพให้แตก
– สาวออทิสติก นักเรียนทุนแพทย์ป.เอกอังกฤษ เปิดใจ จ่อถูกปารีณา ฟ้องเอาผิด
เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่อาคาร APCD บ้านราชวิถี ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง พร้อมด้วยแทนจาก 7 องค์การคนพิการระดับชาติ ประกอบด้วย นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ นายกสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม, นายศุภชีพ ดิษเทศ นายกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย, นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล นายกสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย, นางนุชจารี คล้ายสุวรรณ นายกสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย, นายวิทยุต บุนนาค นายกสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย, นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย, ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานฝ่ายกฎหมายและสิทธิเสรีภาพมนุษยชน สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย และประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ และน.ส.เสาวลักษณ์ ทองก๊วย กรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ จัดแถลงข่าวเพื่อเรียกร้อง นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ
โดย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง กล่าวว่า แม้ น.ส.ปารีณา จะใช้คำที่ไม่เหมาะสม ด้วยความไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือไม่มีเจตนาดูหมิ่น ดูแคลนคนพิการ หรือบุคคลออทิสติก แต่เมื่อมีผู้ออกมาแสดงความไม่สบายใจ ตักเตือน แทนที่ น.ส.ปารีณาจะรับฟังเสียงประชาชน กลับประกาศผ่านสื่อสาธารณะว่า จะดำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่งให้ถึงที่สุด รวมถึงได้มีการแจ้งดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทแก่ประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทางสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย และองค์กรสมาชิก ในฐานะที่มีหน้าที่พิทักษ์สิทธิคนพิการ จึงขอเรียกร้องให้ น.ส.ปารีณา กล่าวคำขอโทษต่อบุคคลออทิสติกและครอบครัว พร้อมยุติการคุกคามทางกฎหมายทั้งทางแพ่ง และทางอาญาต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทันที
“อีก 2 วันจากนี้ ผมจะเปิดล่ารายชื่อผ่านเพจเฟซบุ๊กของผม หากเห็นว่าคำพูด น.ส.ปารีณา ที่ระบุว่า ออทิสติกเป็นความน่ารัก เป็นการเหยียดหยามดูถูกดูแคลน ก็มาร่วมกันลงชื่อทั้งคนพิการและคนทั่วไป เพื่อเสนอให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบความประพฤติ” นายอนันต์ชัยกล่าว
ขณะที่ ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานฝ่ายกฎหมายและสิทธิเสรีภาพมนุษยชน สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการพิจารณาข้อความที่ น.ส.ปารีณาได้กล่าวมาแล้ว เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการ ซึ่งทางสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย จะดำเนินการยื่นคำขอให้มีการวินิจฉัยว่า เป็นการกระทำที่เลือกปฏิบัติต่อคนพิการ ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 มาตรา 15-17 หรือไม่ หากคณะกรรมการวินิจฉัยว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ สามารถดำเนินคดีต่อไปในชั้นศาลว่าถูกละเมิด และสามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนจากการถูกละเมิดนั้นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– ‘ปารีณา’ แจ้งความ ‘ทนายอนันต์ชัย’ เรียกค่าเสียหาย 1 ล้าน กรณีดราม่า ‘ก้อย’
ด้าน นางสาวเพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์ ซึ่งเป็นออทิสติก และเป็นนักเรียนทุนปริญญาเอกของสหภาพยุโรป กำลังศึกษาแพทยศาสตร์ ที่ประเทศอังกฤษ ถูก น.ส.ปารีณาแจ้งความด้วย จากการโพสต์ชี้แจงคนพิการก็มีศักยภาพ ให้สัมภาษณ์ทางไกลผ่านระบบวีดิโอคอล จากประเทศอังกฤษ ว่า รู้สึกกังวลมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น หนูแค่แสดงความคิดเห็นให้คนประมาณ 300 คนได้ยิน ไม่คิดว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะดีเกินคาด และทำให้ไม่สบายใจ ทั้งนี้ จากที่อ่านตามโพสต์ที่บอกว่าให้ไปจบที่ศาล หนูไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร หนูเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นนักวิทยาศาสตร์ตัวเล็กๆ ไม่ได้มีอำนาจอะไรที่ไหน ก็กลัวค่ะ หลังจากนั้นหนูก็ไม่กล้าเปิดเฟซบุ๊กของเขาอีกเลย
ส่วน น.ส.เสาวลักษณ์ ทองก๊วย กรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ ซึ่งมาตรา 8 ระบุชัดเจนถึงรัฐต้องสร้างมาตรการที่ป้องกันการกลั่นแกล้งเหมารวม เพื่อลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่ผู้กระทำในเหตุการณ์นี้เป็นคนในภาครัฐเสียเอง เป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติในรัฐสภา เราปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปไม่ได้ ฉะนั้นหน่วยงานรัฐจะต้องดำเนินการยุติเรื่องนี้โดยด่วนและเป็นธรรม ผลกระทบไม่เพียงต่อบุคคลเดียวเท่านั้น อย่างน้องเพียงขวัญได้ถูกลดทอนคุณค่า เกิดความไม่มั่นใจในคุณภาพชีวิตของตัวเอง ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยตรง
