กทม.จัดงบหมื่นล้าน ซื้อวัคซีน แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย มีผลกระทบต่อสุขภาพน้อยสุด
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) ว่า วันนี้ (14 ม.ค.) ในพื้นที่ กทม. พบผู้ติดเชื้อ 14 ราย ภาพรวมในพื้นที่กรุงเทพฯ ดีขึ้น แต่ยังไม่ได้หมายความว่าปลอดภัย เหตุที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง เกิดจากปัจจัยการควบคุมสถานที่ ที่ได้สั่งปิดสถานที่เสี่ยง และกำหนดให้ต้องสั่งซื้ออาหารกลับบ้านหลัง 21.00 น. ทำให้ผู้ติดเชื้อลดลง
นอกจากนี้ กทม.ได้ทำการตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง ขณะนี้ตรวจไปแล้ว 10,090 ตัวอย่าง โดยหลังจากนี้ต้องดูปัจจัยการระบาดในจังหวัดพื้นที่ติดต่อกับ กทม. ซึ่งในปลายเดือนมกราคมนี้ จะประชุมร่วมกับจังหวัดใกล้ กทม. และคณะแพทย์ เพื่อผ่อนปรนมาตรการต่างๆ หากสถานการณ์การติดเชื้อลดลง
โฆษก กทม. ยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมจัดหาวัคซีน ป้องกันโควิด-19 ของ กทม. ว่า กทม.ได้ประมาณการงบประมาณเตรียมพร้อมสำหรับการจัดซื้อวัคซีน สำหรับประชากรใน กทม. ที่มีอยู่ประมาณ 5 ล้านคน ที่ 1,000-10,000 ล้านบาท ขึ้นกับราคาวัคซีน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลประกาศชัดมีงบประมาณสำหรับวัคซีนให้ประชาชนเพียงพออยู่แล้ว ในส่วนของ กทม.ก็เช่นกัน เงินไม่เป็นปัญหา โดยเฉพาะเพื่อการควบคุมโรค คนไทยทุกคนต้องได้รับวัคซีน และ กทม.พร้อมใช้งบประมาณหากต้องใช้ แต่ปัญหาที่ยังซื้อไม่ได้ อยู่ที่ความปลอดภัยของวัคซีน
ทั้งนี้ กทม.ได้มอบสำนักอนามัย และสำนักการแพทย์ ประสานใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการจัดหาวัคซีนที่เหมาะสม ปลอดภัย และมีผลกระทบกับสุขภาพน้อยที่สุด ซึ่ง กทม.ก็มีแนวทางเดียวกับรัฐบาลที่จะให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีนก่อนเป็นกลุ่มแรก โดยเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน อยู่ระหว่างหารือกับคณะแพทย์ด้วยว่า หากฉีดวัคซีนชนิดหนึ่งแล้ว เมื่อมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า จะฉีดซ้ำได้อีกหรือไม่ ต้องให้ได้ผลวิจัยที่แน่นอนด้วย
