ผบช.สตม. – กคม. นำกำลังตรวจชายแดนตะวันตก วางแผนสกัดพม่าทะลักเข้าไทย เตรียมกวาดล้างสองขบวนการขน โรฮีนจาแม่สอด-แรงงานพม่าเมืองกาญจน์
วันที่ 21 มกราคม พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรงจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม) พล.ต.ท.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ ผู้บัญชาการสำนักกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากรปุณยสิริ ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.นิพนธ์ รัตนศิริแสงโชติ ผบก.จต.8 พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รองผบก.สส.สตม. รองผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ พ.ต.อ.หฤษฏ์ เอกอุรุ รองผบก.ตม.3 พร้อมคณะเดินทางไปตรวจราชการภาคใต้ตอนบนและชายแดนด้านตะวันตกในพื้นที่ จ.ระนอง, จ.ชุมพร, จ.ประจวบคีรีขันธ์, จ.กาญจนบุรี และ จ.ราชบุรี หลังจากก่อนหน้านี้มีขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้ามาในประเทศไทยจนนำไปสู่การระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่สอง ซึ่งล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งในจำนวนนี้มีตำรวจร่วมขบวนการด้วย
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ชายแดนด้านตะวันตกเป็นระยะทางยาว 2,401 กิโลเมตร รวม 10 จังหวัด ทาง พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความสำคัญมาโดยตลอดเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ที่เน้นมาด้านนี้เพราะพม่าใกล้กับอินเดียมีการระบาดของโควิด-19 จำนวนมาก เป็นพื้นที่เสี่ยง ตำรวจ ตม. และ ตชด. เป็นหน่วยสำคัญจึงต้องมาเน้นกำชับการปฏิบัติ ตนเน้นมาเสมอว่าอย่าให้แสวงหาประโยชน์ หากตำรวจร่วมกับขบวนการขนคนต่างด้าวเมื่อสอบสวนโรคแล้วไม่มีทางรอดเพราะจะรู้หมดว่าจ่ายเงินให้กับใคร ต้องร่วมมือกันสกัดกั้น โดยเฉพาะช่วงนี้รัฐบาลเปิดให้คนต่างด้าวใช้สิทธิผ่อนผันขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานถูกกฎหมายได้ จึงกังวลว่าคนต่างด้าวจะลักลอบทะลักเข้ามาในไทยอีกโดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรองโรค
ด้าน พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวว่า ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายเพราะตำรวจ ตม. มีการปฏบัติที่ขึ้นกับ คำสั่งของ ศบค. ที่กำหนดให้เข้มงวดกับหารจับกุมผู้ที่หลบหนีเข้าเมือง เรื่องที่เน้นย้ำ คือตำรวจทุกคนเป็นเจ้าพนักงานโดยตรง และยังต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ปราบปรามการค้ามนุษย์ เพราะการค้ามนุษย์กับการลักลอบเข้าเมือง เกี่ยวเนื่องกันเนื่องจากการค้ามนุษย์มีการแสวงหาประโยชน์ จึงอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์อีกด้วย
มีรายงานว่า พล.ต.ท.สมพงษ์ และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ พร้อมคณะได้ร่วมกันมอบสิ่งของบำรุงขวัญและอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับข้าราชการตำรวจ ตม. และตำรวจตระเวนชายแดนทั้ง 5 จังหวัด ที่ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าในการสอดส่องดูแลขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าประเทศด้วย โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ย้ำว่าไม่ให้ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีตำรวจ ตม. บางคนเข้าไปเกี่ยวข้องล่าสุดได้สั่งหาหลักฐานเพื่อดำเนินคดีแล้ว
สำหรับการสืบสวนขยายผลแก๊งขนแรงงานต่างด้าวที่ตรวจพบเจอชาวโรงฮีนจา จำนวน 13 คนในพื้นที่ สน.ดอนเมือง ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ และ พ.ต.อ.สถิตย์ สืบสวนขยายผลอย่างใกล้ชิด โดยเบื้องต้นพบว่าเป็นขบวนการลักลอบขนชาวโรฮีนจากพม่าไปยังประเทศมาเลเซีย โดยขบวนการได้ลักลอบนำชาวโรฮีนจาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก เข้ามาพักย่านดอนเมือง และ จ.ปทุม ธานี จากนั้นจะนำไปพักในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนที่จะเคลื่อนไปออกช่องทางธรรมชาติที่ จ.นราธิวาส นอกจากนี้ยังพัวพันกับการลักลอบนำแรงงานไทยจากมาเลเซียกลับมายังชายแดนไทยแบบผิดกฎหมายเพื่อเลี่ยงการตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วย ซึ่งภายในสัปดาห์หน้านี้ ตม. จะมีการระดมใหญ่เพื่อจัดการแก๊งกับขบวนการนี้ ซึ่งจะทำไปพร้อมๆกับการหาหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับ เครือข่ายเจ๊เพชร ที่เป็นขบวนการขนแรงงานเถื่อนจากชายแดน จ.กาญจนบุรี เข้ามายัง จ.สมุทรสาคร จนทำให้เกิดการระบาดของโควิด-19 ในครั้งที่สองนี้ด้วย
