โควิดระบาดระลอกใหม่ ฉายซ้ำ ‘คนไร้บ้าน’ พลเมืองถูกลืม

โควิดระบาดระลอกใหม่ ฉายซ้ำ ‘คนไร้บ้าน’ พลเมืองถูกลืม

กลับมายกการ์ดสูงอีกครั้งกับ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ทำเอาหลายออฟฟิศกลับมารีรันมาตรการเวิร์กฟรอมโฮม ลดเงินเดือน ส่วนบรรดาร้านค้าต่างๆ ก็เข้มจำกัดจำนวนคน ปิดเร็วขึ้น ลูกค้าลดลง ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า รอวันยอดติดเชื้อรายใหม่คลี่คลาย

หลายคนยังดีว่ามีต้นทุนดี เช่น มีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง เพียงพอที่จะสร้างหลักประกันคุณภาพชีวิตต่อไปได้ บางส่วนเงินเก็บไม่มี ก็ยังพอใช้ความสามารถตัวเองไปให้ถึงแหล่งทุนอื่นๆ เช่น หาอาชีพเสริม ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาจากรัฐบาล แต่กับ ‘คนไร้บ้าน’ หรือคนเร่ร่อน ไม่มีทางเลือกอย่างนั้น นอกจากไม่มีเงินเก็บ ไม่มีงานทำ หลายคนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนอื่นๆ ได้เลย เพราะไม่มีความรู้เพียงพอ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน

แม้กระทั่งจะลงทะเบียนรับเงินเยียวยาจากรัฐบาล ยังทำไม่ได้เลย!! มิหนำซ้ำยังไม่ได้รับการเหลียวแลตลอดช่วงโควิด-19 ระบาด 1 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย

นางอัจฉรา สรวารี เลขาธิการมูลนิธิอิสรชน ซึ่งทำงานช่วยเหลือคนไร้บ้าน เล่าว่า ที่ผ่านมาคนที่อยู่ในที่สาธารณะหรือคนเร่ร่อน เข้าไม่ถึงการเยียวยาใดๆ จากรัฐเลย การลงทะเบียนเยียวยาโควิดรอบ 2 ในเร็วๆ นี้ก็มีความเสี่ยงสูงว่าจะเข้าไม่ถึงเช่นกัน

ย้อนช่วงโควิด-19 ระบาดใหม่ๆ ประชาชนต่างรู้สึกระแวงกับคนแปลกหน้าที่เข้าใกล้ พยายามเว้นระยะห่างเพราะไม่รู้ว่าใครมีเชื้อหรือไม่มี และยิ่งต้องถอยหนีให้หนักกับคนเร่ร่อนตามท้องถนน ที่ดูภายนอกไม่สะอาดดูเสียเลย จนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ประกาศจัดสวัสดิการให้คนเร่ร่อน และคนต่างจังหวัดที่มาหางานแต่ยังไม่ได้งาน และไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง สามารถเข้าไปพักอาศัยบ้านปันสุขของ พม. โดยมีบริการรถรับส่งฟรีถึงที่ ภายในมีบริการอาหารฟรี 3 มื้อ สามารถเข้ามาอาบน้ำ หลับนอนได้

ADVERTISMENT

ทว่าคนเร่ร่อนและคนตกงานกลับไม่ตอบรับเท่าที่ควร มีเพียงไม่กี่ร้อยคนที่เข้าไป จากตัวเลขประมาณการคนไร้บ้านทั่วประเทศหลักพันคน การดำเนินโครงการยังเจอแรงต้านจากชาวชุมชนรอบบ้านปันสุข ที่วิตกกังวลคนเร่ร่อนจะเอาเชื้อโรคมาแพร่กระจาย เฉกเช่นการตั้งโรงพยาบาลสนามหลายแห่งขณะนี้ ที่กำลังถูกต่อต้านโดยชุมชน

“สิ่งที่น่ากังวลตอนนี้คือ สถานการณ์โควิด-19 กำลังทำให้ยอดคนเร่ร่อน คนตกงานที่อาศัยอยู่ในที่สาธารณะ มีจำนวนเพิ่มขึ้น เพราะจากการที่มูลนิธิลงพื้นที่นำอาหาร น้ำดื่มไปแจกในหลายพื้นที่ พบคนเร่ร่อนหน้าใหม่เยอะขึ้น ส่วนใหญ่เป็นคนตกงานที่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปหาเช้ากินค่ำแล้วไม่มีงาน คนทำงานโรงงานที่ถูกเลิกจ้าง คนมีหนี้สิน”

แฟ้มภาพ มูลนิธิอิสรชนแจกอาหารคนไร้บ้าน คนตกงาน บริเวณตรอกเสถียร เขตพระนคร

อัจฉรามองสิ่งที่รัฐควรทำตอนนี้คือ ให้คนเร่ร่อนได้อยู่ในที่สาธารณะตามเดิม เพราะเป็นลักษณะการอยู่อาศัยในพื้นที่โล่ง ควบคู่ไปกับการส่งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมลงไปช่วยเหลือแบบเป็นมิตร ตั้งแต่ไปให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขอนามัย เช่น การล้างมือที่ถูกวิธี การดูแลตัวเอง อีกทั้งช่วยเหลือเรื่องปากท้อง เช่น อาหารแจกถึงที่ จากนั้นค่อยๆ เยียวยาและพัฒนาเขาให้กลับมายืนด้วยตัวเองอีกครั้ง

อัจฉราห่วงแอ๊กชั่นของภาครัฐขณะนี้ ในการส่งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม พร้อมด้วยทหาร ตำรวจ ลงตามจุดสำคัญๆ อาทิ หัวลำโพง เพราะเริ่มทำให้คนเร่ร่อนกลัว และกระจายออกนอกพื้นที่

“จริงๆ คนเร่ร่อนเขาก็รักตัวเอง เวลามูลนิธิลงพื้นที่ เขาก็มาถามตลอดว่ามีเจลแอลกอฮอล์ไหม มีหน้ากากอนามัยแจกหรือเปล่า พวกเขาพยายามระวังตัวเอง แต่ก็ยังต้องออกมาใช้ชีวิตในที่สาธารณะอยู่ เพราะต้องทำมาหากินเลี้ยงปากท้อง เนื่องจากกลัวอดตายจากการไม่มีกินมากกว่า”

อัจฉรา สรวารี