‘จักรทิพย์’ชี้หมายจับอั้งยี่ 17 นปป.ไม่โยงบึ้มใต้ แฉเคลื่อนไหวล้มล้างรัฐบาล ผิดม.112

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 18 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลทหารอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 17 ราย ในข้อหาอั้งยี่ และฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ว่าตนได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวแล้ว ในส่วนนี้เป็นเรื่องของแนวคิดต่อต้านการเมือง ของกลุ่มแนวร่วมปฏิวัติประชาธิปไตย (นปป.) ยืนยันว่าการออกหมายจับครั้งนี้ กลุ่มนปป. ไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ใน 7 จังหวัดภาคใต้ เป็นคนละเรื่องกัน แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ขออย่าเป็นกังวล

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า กรณีที่บางรายมีพฤติการณ์มีการสะสมอาวุธนั้นยังไม่ทราบว่าเอาอาวุธไปทำอะไรก็ต้องสืบสวนต่อไป ทั้งนี้ที่ผ่านมากลุ่มนี้เคลื่อนไหวทางการเมืองมาตลอด รวมทั้งในช่วงการออกเสียงประชามติด้วย เป็นแนวคิดของกลุ่มนี้อยู่แล้ว ในขั้นนี้หากการสืบสวนขยายผลไปถึงใครที่เป็นแนวร่วมกลุ่มนี้ก็ต้องจับกุมเพิ่มเติม ส่วน 2 รายที่เป็นตำรวจนั้น ไม่ต้องห่วง ตนมีวิธีการดำเนินการ ตำรวจทำในส่วนนี้เอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกหมายจับกลุ่มนปป.ในช่วงนี้ในช่วงการคลี่คลายคดีออกหมายจับผู้ต้องหาคดีระเบิด 7 จังหวัด ต้องการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่นั้น พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะถึงแม้ไม่มีเหตุระเบิด ทางตำรวจก็ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณหรือกดดันไปยังกลุ่มการเมือง ตนพูดมาตลอดว่าใครที่จะมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่สุ่มเสี่ยงต่อข้อกฎหมาย ก็ต้องหลีกเลี่ยง

สำหรับความคืบหน้าคดีระเบิดและวางเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนยันว่าขณะนี้มีการออกหมายจับไป 1 ราย คือ นายอาหะมะ เลงหะ เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนนายศักรินทร์ คฤหัสถ์ ที่ถูกเพิกถอนหมายจับ ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลทหารอนุมัติหมายจับอีกครั้ง นอกจากนี้ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ต้องขอระยะเวลาทำงานก่อน พร้อมยืนยันว่าจะต้องเอาผิดทั้งขบวนการแน่นอน ทั้งนี้ส่วนตัวอยากให้มีข่าวดีในวันพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ แต่เรื่องแบบนี้รีบดำเนินการไม่ได้ ยืนยันว่าในคดีระเบิดยังไม่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองใดทั้งนั้น แต่ก็ยังสืบสวนสอบสวนไปทุกประเด็น

Advertisement

ส่วนคดีระเบิดที่เกิดขึ้นในจ. ฉะเชิงเทรา ผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวจากแผนประทุษกรรมไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดภาคใต้อย่างแน่นอน เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุชัดเจนอยู่แล้ว โดยผู้ก่อเหตุมีความประสงค์ต่อชีวิตแน่นอน อย่างไรก็ตามในการประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนี้สั่งการให้ทุกกองบัญชาการเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลพื้นที่ในสงบปลอดภัย

ด้าน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (17ส.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ให้ดำเนินคดีกับบุคคลในเบื้องต้น 17 ราย ซึ่งเรียกว่าพรรคแนวร่วมปฏิวัติประชาธิปไตย (นปป.) โดยพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้และมีการสืบสวน พร้อมทั้งแจ้งไปยังฝ่ายความมั่นคงว่ากลุ่มนี้มีการรวมตัวกัน มีแนวคิดทางการเมือง ล้มล้าง และต่อต้านการปกครองของรัฐบาล เบื้องต้นเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดจริง จึงยื่นคำร้องให้ศาลทหารเพื่ออนุมัติหมายจับทั้ง 17 คน ในความผิดฐานชุมนุมในพื้นที่สาธารณะเกิน 5 คน และอั้งยี่ซ่องโจร บางคนอาจจะมีความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 บางคนอาจจะมีความผิดเกี่ยวกับอาวุธสงคราม และพรุ่งนี้ (19ส.ค.) เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดที่ควบคุมตัวไว้ไปมอบให้ตำรวจ บก.ป. เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ขณะที่มีรายงานว่า ส่วนอีก 2 คน ใน 17 คน ของแนวร่วม นปป. ที่ถูกออกหมายคือ ร.ต.ท.สมัย คูณสวัสดิ์ อายุ 57 ปี ชาวจ.หนองคาย และ ร.ต.ต. หญิง วิลัยวรรณ คูณสวัสดิ์ อายุ 54 ปี ชาวจ.หนองคาย ที่ถูกออกหมายจับเช่นกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ทหารปล่อยตัวไปก่อนหน้านี้เนื่องจากพยานหลักฐานยังไม่ครบจึงปล่อยตัวไป ทางเจ้าหน้าตำรวจกองปราบปรามจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image