คกก.ผู้สูงอายุแห่งชาติ ชง ครม.เยียวยาคนชรารับเบี้ยซ้ำซ้อนสุจริต มอบคณะอนุฯ ทำการศึกษาบำนาญอื่น เปิดช่องรับซ้ำซ้อนได้ ยกทหารเสียชีวิต ควรได้ซ้ำซ้อน
จากกรณีเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั่วประเทศ 1.5 หมื่นราย เนื่องจากได้รับบำนาญพิเศษอยู่เดิม ทำให้ได้รับสวัสดิการรัฐซ้ำซ้อน แต่ผู้สูงอายุหลายรายเกิดไม่มีเงินคืนให้และเครียดความเครียดหนัก จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา พร้อมให้ชะลอการเรียกคืนเงิน และการฟ้องร้องดำเนินคดี ได้นำมาสู่การประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) เร่งด่วน ซึ่งมีวาระพิจารณาแก้ปัญหาดังกล่าว ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นั้น
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ครั้งที่ 1/2564 ซึ่งมี นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนผู้แทนกระทรวงการคลัง ร่วมประชุมด้วย ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที ว่า ที่ประชุมได้รายงานยอดผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น มีจำนวน 15,323 คน ก่อนหารือและมีมติ 3 เรื่อง ดังนี้ 1.เห็นชอบเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชะลอการเรียกเก็บเงินผู้สูงอายุที่รับสวัสดิการซ้ำซ้อนไว้ก่อน 2.เห็นชอบให้เสนอ ครม.หาแนวทางเยียวยาผู้ที่ได้รับสิทธิและเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการโดยสุจริต ส่วนในรายละเอียดขอไปหารือในที่ประชุม ครม.เพื่อหาแนวทางต่อไป
ชมคลิป
รองนายกรัฐมนตรี กล่าว และ 3.เห็นชอบให้ตั้งคณะทำงาน เพื่อมาพิจารณาการรับสิทธิซ้ำซ้อนกับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่าควรผู้รับสวัสดิการกลุ่มใดบ้างที่ควรได้รับสวัสดิการซ้ำซ้อน ตามข้อเสนอผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เสนอให้กลุ่มบำนาญพิเศษ ควรได้รับสวัสดิการซ้ำซ้อน โดยมอบคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านผู้สูงอายุ ซึ่งมี นพ.วิชัย โชควิวัฒน รองประธาน กผส.คนที่สอง เป็นประธาน พิจารณาเรื่องนี้ ก่อนเสนอให้ กผส.พิจารณา
ถามถึงกรณีผู้สูงอายุที่รับสวัสดิการซ้ำซ้อน แต่คืนเบี้ยผู้สูงอายุมาแล้ว มีมาตรการอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า ในรายละเอียดขอให้ ครม.มีความเห็น วันนี้เป็นเพียงการพิจารณาในหลักการและภาพรวม เพื่อเสนอต่อ ครม.พิจารณา ทั้งนี้ นายจุรินทร์ได้ให้ผู้แทนจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ชี้แจงว่า ขณะนี้ สถ.ได้มีคำสั่งให้ชะลอการเรียกคืนเงินผู้สูงอายุ ที่รับสวัสดิการซ้ำซ้อนไปแล้ว แต่ก็มีผู้สูงอายุที่คืนเบี้ยมาแล้ว 6,731 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 5,789 ราย
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ฉะนั้นต้องอาศัยอำนาจ ครม.พิจารณา หากครม.มีมติว่าต้องดำเนินการอย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะต้องไปดำเนินการ ซึ่งจะมีการเสนอ ครม.อย่างเร็วที่สุด” นายจุรินทร์กล่าว
ด้าน นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านผู้สูงอายุ กล่าวถึงการประชุมพิจารณาบำนาญ 24 ประเภท ที่ควรจะได้รับซ้ำซ้อน ว่า จะมีการประชุมในวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ โดยนำข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดินมาพิจารณา อย่างกรณีบำนาญพิเศษ ที่ปัจจุบันมีรับอยู่ 4,111 ราย เป็นกลุ่มที่สมควรจะได้รับซ้ำซ้อน เพราะเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ เช่น ทหารเสียชีวิต เขาอาจเคยเป็นตัวหลักเลี้ยงดูครอบครัว พอเสียชีวิตก็ขาดรายได้ไป ทั้งนี้ ก็ต้องมาดูอีก 23 ประเภทว่าเกี่ยวข้องกับกฎหมายอะไรบ้าง เป็นอย่างไร แล้วเสนอให้ กผส.พิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
นพ.วิชัยกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผู้ที่ได้รับสวัสดิการซ้ำซ้อนตามระเบียบเดิมที่มีปัญหา ก็คงต้องไปดูว่าได้รับอย่างสุจริตหรือไม่ อย่างกรณีข้าราชการบำนาญ แต่ไปเซ็นตอนลงทะเบียนว่าไม่เคยได้รับสวัสดิการอื่น อันนี้ถือว่าไม่สุจริตแล้ว หรือจะกรณีผู้ที่สติเลอะเลือน เซ็นตามคำบอกเจ้าหน้าที่ว่าให้เซ็นๆ ไปเถอะ อันนี้ถือว่าสุจริต เพราะเซ็นไปด้วยความไม่รู้