‘มูลนิธิสืบฯ’ ประณาม ‘พันจ่าเอก’ การกระทำน่าอัปยศ ลักลอบล่าสัตว์ป่า ที่อช.ไทรโยค

‘มูลนิธิสืบฯ’ ประณาม ‘พันจ่าเอก’ การกระทำน่าอัปยศ ลักลอบล่าสัตว์ป่า ที่อช.ไทรโยค

วันนี้ 7 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้โพสต์ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำอันน่าอัปยศในการลักลอบล่าสัตว์ป่า ชี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีและลงโทษทางวินัยให้ถึงที่สุด

โดยแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2564 ที่เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจอุทยานแห่งชาติไทรโยค (ส่วนกลาง) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบล่าสัตว์ พันจ่าเอก พิสนุ สังกัดหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ขณะกระทำความผิดโดยที่มือด้านขวาถืออาวุธปืนเดี่ยวยาวลูกกรด ขนาด .22 LR พร้อมแม็กกาซีน กระสุนขนาด .22 จากการตรวจค้นเพิ่มเติมยังพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. กระสุนปืนขนาด 9 มม. มีดพกสั้นจำนวน 1 เล่ม ยาบ้า จำนวน 4 เม็ดครึ่ง พร้อมอุปกรณ์เสพยา และกัญชาอัดแท่ง

ใกล้จุดเกิดเหตุยังพบซากนกเงือก จำนวน 7 ซาก ซากนกกาเหว่า จำนวน 2 ซาก ซากนกเขียวคราม จำนวน 1 ซาก คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นรถยนต์พบอาวุธปืนเดี่ยวลูกซองยาว ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 14 นัด มีดพกสั้นจำนวน 3 เล่ม มีดพล้าโต้ยาว จำนวน 1 เล่ม หม้อแปลงสำหรับช็อตปลา จำนวน 1 ตัว แร้วดักสัตว์ป่า (แร้วคอม้า) จำนวน 23 อัน แร้วดักสัตว์ป่า(จิก) จำนวน 31 อัน ของกลางทั้งหมดอยู่ภายในรถยนต์ใกล้จุดเกิดเหตุ โดยพันจ่าเอกพิสนุ ยอมรับว่าของกลางดังกล่าวเป็นของตนเอง

จากพฤติการณ์ และของกลางที่ตรวจพบ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พันจ่าเอกพิสนุ มีความตั้งใจเข้าไปยังอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อล่าสัตว์ป่าเป็นการเฉพาะ โดยไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น

Advertisement

มูลนิธิสืบนาคะเสถียรขอประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งเป็นการกระทำอันน่าอัปยศที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีกแล้วในยุคสมัยนี้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีและดำเนินการลงโทษทางวินัยให้ถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนสิทธิ สร้างมาตรการควบคุมที่เหมาะสม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในการพกพาอาวุธปืนเครื่องกระสุน และอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ ทั้งข้าราชการและประชาชนทั่วไปว่ามีความจำเป็นและสมควรแก่เหตุหรือไม่ รวมถึง เครื่องมือดักสัตว์ต่างๆ หากมีไว้ในครอบครองควรให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจอุทยานแห่งชาติไทรโยค (ส่วนกลาง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำหรับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด และขอชื่นชมประชาชนผู้หวังดีที่คอยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ แจ้งเบาะแส จนนำมาซึ่งการจับกุมผู้กระทำความผิดได้สำเร็จ

Advertisement

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมอุทยานฯ จับทหารพันจ่าเอกปืนโหดยิงนกเงือก ตายคาที่ ทีเดียว 7 ตัว
สั่งลงโทษธำรงวินัย 3 ผบ.หน่วย ปล่อยลูกน้องเข้าป่าสงวน เสพยา-ล่านกเงือก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image