กทม. ผ่อนปรนนั่งดื่มได้ถึง 5 ทุ่ม-‘อาบอบนวด ผับ บาร์’ ให้เปิดได้ ‘สนามไก่ชน’ รอไปก่อน
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ศาลาว่าการ กทม. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ว่า หลังจากที่รัฐบาล ศบค. ผ่อนปรนให้กทม.จัดเป็นจังหวัดที่มีการควบคุมที่ดีขึ้น ทำให้สามารถผ่อนปรนสถานที่ ได้ ใน 4 กลุ่มสถานที่ และยังมีสถานที่ที่ยังคงปิดอยู่ มีจำนวน 2 สถานที่ ได้แก่ 1. สนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่ และ 2. สนามปลากัด หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน รวมถึงสนามชนโค ซึ่งสถานที่ดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยมีในพื้นที่กรุงเทพฯ
สำหรับใน 4 กลุ่มสถานที่ ประกอบด้วย
1.ร้านอาหาร สามารถรับประทานอาหารและสามารถดื่มสุราได้ ไม่เกิน เวลา 23.00 น. เริ่มวันนี้
2.สถานบริการ สถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ รวมทั้งผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบริการอาบน้ำ และอาบอบนวด สามารถให้บริการได้ แต่ต้องเว้นระยะห่างโต๊ะ 2 เมตร ให้บริการเฉพาะโต๊ะนั่ง ไม่ให้มีโต๊ะยืน ไม่ให้มีการจัดพื้นที่ให้เต้น เพราะการเต้นทำให้คนใกล้ชิดกัน สามารถแพร่เชื้อได้ ควบคุมระบบการตรวจสอบข้อมูล ทั้งการลงทะเบียนไทยชนะ หรือ หมอชนะ ลงทะเบียนเอกสาร เพื่อให้ง่ายต่อการสอบสวนโรค
3. ยิม ฟิตเนส และสถานที่ออกกำลังกาย สามารถเปิดให้บริการตามปกติ รวมถึงสถานที่ออกกำลังกาย ตามสนามให้มีผู้ชมได้ และ
4.การให้บริการห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง ห้องประชุม ศูนย์ประชุม และการจัดการแสดง สามารถจัดได้ แต่ต้องมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 300 คน ถ้าเกิน 300 คน จะต้องขออนุญาตที่สำนักงานเขต ซึ่งแต่ละกิจกรรมจะมีเกณฑ์แต่ละประเภทที่แตกต่างกัน
ขณะที่โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทุกแห่ง สามารถเปิดได้ตามปกติภายใต้มาตรการควบคุม มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ส่วนการควบคุมการแพร่ระบาด ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวนั้น ขณะนี้สำนักอนามัยอยู่ระหว่างออกแนวทางหลักเกณฑ์ในการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาอยู่ในกทม.แบบถาวร และการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าวแบบไป-กลับ
ทั้งนี้ โฆษก. กทม.กล่าวว่า กทม.ได้เริ่มดำเนินการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ตรวจในตลาด จำนวน 466 แห่ง กลุ่มเสี่ยง จำนวน 44,328 ราย พบผู้ติดเชื้อ 14 ราย ตรวจในสถานประกอบการ 128 แห่ง แรงงาน จำนวน 16,777 คน พบผู้ติดเชื้อ 25 ราย ตรวจในชุมชน ประชาชนจำนวน 44,328 คน พบผู้ติดเชื้อ 35 ราย ทั้งนี้ ไม่รวมการตรวจในสถานพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลสังกัด กทม.ได้ตรวจไปแล้วกว่า 50,000 ราย และไม่รวมโรงพยาบาลนอกสังกัด แต่อย่างไรก็ตาม กทม.ยังคงมีการตรวจเชิงรุกในสถานที่ที่เห็นว่ามีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องต่อไป
