รมว.สุชาติ แจงฉีดวัคซีนโควิดแรงงานต่างด้าว แค่แนวคิด ถ้าซื้อต้องหลังคนไทยได้ครบ สกัดระบาดซ้ำ
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 มาฉีดให้กับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งมีประมาณ 2.3 ล้านคน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ว่า เรื่องนี้ยังเป็นเพียงแนวคิด และอยู่ระหว่างมอบหมายให้คณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ศึกษาความเป็นไปได้ ยืนยันว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการจัดซื้อใดๆ
“อย่างไรก็ตาม ในแนวคิดนี้ เชื่อว่าอาจจะถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ เพราะวันนี้คนไทยก็เพิ่งได้รับวัคซีนล็อตแรก และยังฉีดวัคซีนไม่ครบทุกคน ซึ่งเรื่องนี้ขอเรียนว่าในส่วนของคนไทยนั้น รัฐบาลจะดำเนินการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้คนไทยอย่างต่อเนื่อง และทุกอย่างอยู่ในแผน คือ มีระยะเวลา และมีการจัดลำดับผู้ที่จะได้รับวัคซีนก่อนและหลังตามความสมัครใจ” นายสุชาติกล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 ที่รัฐบาลไทยจัดหามาได้นั้น ทุกโดสเพื่อคนไทยเป็นอันดับแรก แต่ในการควบคุมโรคระบาดนั้น ไม่ใช่ว่าฉีดให้เพียงคนไทยทุกคนแล้วจะสามารถควบคุมโรคได้ทั้งหมด เพราะในเมื่อยังมีคนต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยอีกจำนวนมาก ดังนั้นในเบื้องต้น จึงมีแนวคิดว่าควรจัดหาวัคซีนโควิด-19 มาฉีดให้กับแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในระบบประกันสังคมด้วย
“ที่เราคิดว่าจะฉีดให้แรงงานต่างด้าวในระบบประกันสังคมด้วยนั้น เพราะข้อเท็จจริงคือ คนเหล่านี้เมื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทย ก็ได้มีการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคม และจ่ายภาษีเช่นเดียวกับแรงงานไทย และเขาก็ควรจะได้สิทธิจากการจ่ายเงินนี้เช่นกัน และหากจะฉีดใคร ก็ต้องให้เจ้าตัวฉีดด้วยความสมัครใจ ที่สำคัญไปกว่านั้น หากเราไม่หาวัคซีนมาฉีดให้แรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ ในเรื่องของการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคก็อาจจะยากลำบากด้วย เพราะพวกเขาก็อยู่ปะปนกับคนไทย และหากเกิดติดเชื้อ หรือเจ็บป่วยก็จะกระทบกับค่าใช้จ่ายของเงินกองทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ณ ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังเป็นเพียงแนวคิด ยังไม่ดำเนินการในทันที และหากสามารถทำได้ก็ต้องรอจนกว่าคนไทยจะได้วัคซีนในสัดส่วนที่มั่นใจว่าได้เกือบครบตามจำนวนที่มีการประมาณการไว้ในแผนแล้ว” นายสุชาติกล่าว และว่า เรื่องนี้หากมีการศึกษาแล้ว เห็นว่าไม่เหมาะสมก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างไรเสียเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ถือเป็นภารกิจของรัฐบาลไทยอยู่แล้ว
