เอกชนจี้ ศบค. เร่งประกาศให้ชัดจัดสงกรานต์ได้ วอนขยายเวลานั่งดื่ม-กินในร้านเที่ยงคืนถึงตี 1

เอกชนจี้ ศบค. เร่งประกาศให้ชัดจัดสงกรานต์ได้ วอนขยายเวลานั่งดื่ม-กินในร้านเที่ยงคืนถึงตี 1

ความคืบหน้าวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ ซึ่งรัฐบาลประกาศหยุดยาว 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-15 เมษายน 2564 นั้น

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม นายธนากร คุปตจิตต์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย กล่าวว่า จากการพูดคุยในกลุ่มสมาชิกสมาคมและผู้ประกอบการต่างๆ ได้เสนอถึงรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกาศให้ชัดเจนถึงการอนุญาตให้จัดงานหรือกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้แล้วโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความชัดเจนและผู้ประกอบการหรือธุรกิจได้เตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องการเพิ่มสต๊อกสินค้า และเพิ่มการให้บริการ โดยเฉพาะเรื่องความพร้อมของแรงงาน

เนื่องจากที่ผ่านมา ด้วยข้อจำกัดจากการล็อกดาวน์พื้นที่และเวลาเปิดดำเนินการ มาตรการเว้นระยะห่างทางจังหวัด และความวิตกต่อการแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่ กระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการ ทำให้ไม่มีการสต๊อกวัตถุดิบหรือสินค้าเหมือนเดิม อีกทั้งลดจำนวนพนักงานหรือแรงงาน

“ผู้ประกอบการอยากให้รัฐบาลโดย ศบค. ส่งสัญญาณว่าจะผ่อนปรนให้จัดสงกรานต์ได้แน่แล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลหรือ ศบค.ยังไม่ออกมาประกาศ เหมือนประกาศให้มีวันหยุดสงกรานต์ได้ยาวขึ้น เพราะนี่ก็เหลือเวลาไม่มาก หากจะผ่อนปรนจัดกิจกรรมสงกรานต์ได้ ต้องใช้เวลาเตรียมอย่างต่ำก็ 1-2 สัปดาห์ ด้านสถานที่ก็ต้องรออนุญาตจากเขตพื้นที่และการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ล้วนต้องใช้เวลาล่วงหน้า 2-3 สัปดาห์ โดยผู้ประกอบการยังพร้อมจัดกิจกรรมบนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และภายใต้ยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะหากมีการพบเชื้อหรือเหตุการณ์อะไรก็ยังใช้เป็นมาตรการสั่งให้ระงับได้” นายธนากรกล่าว

Advertisement

นายธนากรกล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่ภาคธุรกิจอยากให้รัฐบาลและ ศบค.ผ่อนปรน คือ การขยายเวลาการนั่งทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มภายในร้านค้าหรือสถานที่จัดงานออกไปอีก 1-2 ชั่วโมง จากขณะนี้ไม่เกิน 23.00 น. เป็น 24.00 น. ถึง 01.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เชื่อว่าประชาชนอยากรื่นเริง ครอบครัวอยากไปทานอาหารตามร้านค้าหรือห้างค้าปลีก หรือไปเที่ยวงานสงกรานต์ที่เป็นวัฒนธรรมดีงามของไทย หลังจากอั้นมานาน การเพิ่มเวลาอีก 1-3 ชั่วโมง จะช่วยผ่อนคลายให้คนไม่ต้องกังวลเรื่องรีบทาน รีบเดินทาง จะช่วยให้เกิดบรรยากาศใช้จ่าย พักผ่อน และกระตุ้นเศรษฐกิจถึงระดับรากหญ้าอีกครั้ง เทียบจากก่อนหน้านี้ ที่มีการขยายเวลานั่งทานนั่งดื่มในร้านอาหารหรือภัตตาคารถึง 23.00 น. ทำให้ยอดขายฟื้นได้ดีระดับหนึ่ง

“แม้จะทยอยปลดล็อกให้ธุรกิจมาดำเนินการปกติ และให้จัดกิจกรรมได้ มีการทยอยฉีดวัคซีน แต่การฟื้นของรายได้หรือนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้เกิดทันที หากไม่เกิดไวรัสระบาดซ้ำแบบมีผู้ติดเชื้อสูงพรวด และทุกประเทศเดินทางได้แล้ว น่าจะฟื้นตัวปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 เพราะกว่าวัคซีนจะชัดเจนว่าได้ผลและกว้างขวางทั่วโลก ก็เดือนมิถุนายน-ตุลาคม แต่หากเกิดการระบาดจนสร้างความวิตกและกลับมาล็อกดาวน์อีกแม้จะจำกัดบางพื้นที่ รอบนี้จะกดดันตกงาน กำลังซื้อท่องเที่ยว หายไปหมด เศรษฐกิจกว่าจะฟื้นเหมือนก่อนโควิด คงเกินปี 2566 เราก็ลุ้นหากสงกรานต์นี้ผ่านไปได้ด้วยดี ทั้งมีการผ่อนปรน จัดงานได้ เพิ่มเวลาเที่ยวและค้าขาย โดยไม่เกิดการติดเชื้อรุนแรง โดยให้ใช้การรับมือสงกรานต์โมเดล เป็นต้นแบบ ให้เกิดภูเก็ตโมเดล เชียงใหม่โมเดล และอื่นๆ ต่อไป” นายธนากรกล่าว

Advertisement

นายธนากรกล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์และหยุดยาวเดือนเมษายนนี้ สมาคมก็ได้ร่วมรณรงค์เมาไม่ขับกับหน่วยงานและสถานที่ต่างๆ ส่วนเทศกาลสงกรานต์นั้นย่อมมีผลดีต่อยอดขายอาหารและเครื่องดื่ม แต่ก็ไม่ได้ขายดีเหมือนในอดีต อีกทั้งพฤติกรรมหลังการแพร่ระบาดของโควิด การสังสรรค์จะอยู่ในกลุ่มคนใกล้ชิด และที่พักเป็นหลัก สังสรรค์ทั่วไปลดลง ตอนนี้คำสั่งซื้อล่วงหน้ารับเทศกาลสงกรานต์มีไม่มากนัก คาดว่าจะรอความชัดเจนการปล่อยให้จัดงานหรือกิจกรรมของภาครัฐค่อยสั่งซื้อ ซึ่งจะเหมือนกับสินค้าวัตถุดิบและอาหารสดทั่วไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image