กรมอุทยานฯเผยไม่ได้รับความร่วมมือจากสัตวแพทย์ หวั่นอนาคอนด้าหลุดสู่ธรรมชาติ
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นายอดิศร นุชดำรงค์ รองกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยความคืบหน้าในการเร่งหาเจ้าของงูอนาคอนด้า ว่า ได้เร่งตรวจสอบเพื่อหาเจ้าของงู โดยติดต่อไปยังสัตวแพทย์ที่ทำการผ่าตัดงู แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิ จึงเร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาผู้ครอบครองงูตัวนี้ให้ได้ว่ามีการนำเข้าอย่างถูกต้องหรือไม่ หรือไปซื้อต่อมาจากใคร หากได้มาอย่างไม่ถูกต้องจะมีบทลงโทษตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 รวมถึงให้ไล่ย้อนกลับไปหาข้อมูลผู้ทำเรื่องนำเข้างูชนิดนี้ในไทย ส่วนใหญ่เป็นเอกชน หรือพ่อค้า คนพวกนี้รู้จุดอ่อนของกฎหมาย ต่อให้ผิด ไม่มีหลักฐาน กรมอุทยานฯก็ไม่มีสิทธิยึดสัตว์ของกลาง จับหรือปรับเพราะอยู่นอกเหนือกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่าของไทย ทั้งนี้ งูอนาคอนด้าตัวดังกล่าวอาจนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ถูกต้องก็ได้ ซึ่งยอมรับว่าตรวจสอบได้ยากเพราะผู้นำเข้ามาจะนำไปจำหน่ายต่อหรือเพาะพันธุ์อย่างไร เป็นการยากจะไปตรวจสอบต้นตอที่มา หลายกรณีมักจะอ้างว่าซื้อต่อมาจากพ่อค้า
รองอธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม กรมอุทยานฯได้ไล่เรียงสถิติงูอนาคอนด้า เริ่มมีครั้งแรกตั้งแต่ปี 2543 จำนวน 4-5 ตัว ในปี 2547 มีผู้ขออนุญาตเป็นขององค์การสวนสัตว์ นำเข้า 17 ตัว ซึ่งสามารถเลี้ยงดูได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี และในปี 2549 อีกประมาณ 50 ราย ซึ่งเป็นเอกชนทำเรื่องมาเพียงรายเดียว ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่สืบหาข้อมูลที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อเอกชนเพื่อตรวจสอบว่ายังเลี้ยงดูได้ดี ถูกต้อง รัดกุม หรือปล่อยสัตว์ส่งต่อไปยังที่ใด เพราะหลังข่าวแพร่ออกไปมีประชาชนเริ่มหวาดกลัวว่าจะมีงูอนาคอนด้าจะหลุดมาในป่าธรรมชาติ ซึ่งคนกลัวกันมาก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจากการติดตามข่าวมาตลอดหลายสิบปียังไม่มีการพบ หรือรายงานข้อมูลว่าพบงูชนิดนี้ในผืนป่าธรรมชาติไทย ซึ่งงูชนิดนี้ลักษณะนิสัยจะเหมือนกับงูเหลือม งูหลามที่พบในไทย เพียงแต่จะมีลักษณะตัวใหญ่ สีเข้มคล้ำกว่า ตัวโตสุดเส้นผ่านศูนย์กลางจะใหญ่กว่า 30 เซนติเมตร หากดูจากจำนวนที่นำเข้ามา หากมีการเพาะพันธุ์ซึ่งจะออกลูกครั้งละ 20-40 ตัว คาดว่าน่าจะมีงูอนาคอนด้าในไทยไม่ต่ำกว่า 100 ตัวแล้ว
