เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าว “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 13 : สมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย อนาคตไทย” ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม- 4 กันยายน ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี โดย นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีความต้องการใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคและดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอาง และกลุ่มอาหารเสริม จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร(องค์การมหาชน) ในปี 2557 พบว่า มูลค่าการใช้และส่งออกสมุนไพรรวมกว่า 240,000 ล้านบาท โดยกลุ่มเครื่องสำอางมีมูลค่า 140,000 ล้านบาท กลุ่มอาหารเสริม 80,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่มสปาและผลิตภัณฑ์ 10,000 ล้านบาท และกลุ่มยาแผนโบราณตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมูลค่าอีก 10,000 ล้านบาท
ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร รองผอ.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ภายในงานจะกระตุ้นเตือนคนไทยให้ใช้ภูมิปัญญาไทยในการดูแลสุขภาพในภาวะโลกร้อน โดยใช้สูตรเครื่องสมุนไพรลดภาวะร้อน ได้แก่ น้ำลิ้นมังกร สูตรอาหารสมุนไพรบำรุงสายตาเช่นเค้กดาวเรือง โดยในดาวเรืองมีสารลูทีน ช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงการเกิดต้อกระจก เครื่องสำอางลดฝ้า คืนความชุ่มฉ่ำให้ผิว ใบคว่ำตายหงายเป็น นำมาตำ จากนั้นชุบผ้าก็อซมาแปะเปลือกตาช่วยคืนความชุ่มชื่น ลดความร้อนในดวงตา และยังมีแจกต้นสมุนไพร6 ต้น คือ ผักปรัง ผักเบี้ยใหญ่ ต้นงิ้ว ต้นมะตูมอ่อน ต้นลิ้นมังกร และต้นตาลเดี่ยว แจกวันละ 200 ต้น พร้อมทั้งแจกหนังสือ “สมุนไพรในสภาวะโลกร้อน” จำนวนจำกัด
ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว
ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว เภสัชกรชำนาญการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า สมุนไพรรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื่น ประกอบด้วย 1.มะขามเปียก มีกรดอินทรีย์โมเลกุลเล็กๆ ที่เรียกว่า AHA จากธรรมชาติ ทำให้ฝ้าจาง ลดการสร้างเม็ดสี ช่วยให้ผลัดเซลล์ผิว ผิวเนียนสวย วิธีใช้ก็ง่ายมาก เพียงนำเนื้อมะขามเปียกมาขยี้ผสมน้ำเล็กน้อยให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกทาทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
2.มะขามป้อม มีสาร Emblicanin ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความยืดหยุ่นและลดริ้วรอย ในสมัยก่อนจะใช้รักษาฝ้าโดยการฝนผลหรือกิ่งกับน้ำซาวข้าวส่วนที่นอนก้นทาหน้าทิ้งไว้ก่อนนอนเป็นประจำ แล้วล้างออกในตอนเช้า 3.ใบฝรั่ง มีเคอร์ซิตินลดการสร้างเม็ดสี ต้านอนุมูลอิสระ วิธีใช้ให้นำใบฝรั่งมาขยี้กับน้ำให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาพอกทาผิวหน้าบ่อยๆ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง 4.หัวกลอย ฝนให้ข้นแล้วผสมกับน้ำเล็กน้อย แล้วบีบน้ำมะนาวประมาณ 2-3 หยด คนให้เข้ากัน ทาให้ทั่วใบหน้า หรือเฉพาะบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ช่วยรักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ขจัดสิวเสี้ยน ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส เต่งตึง
5.ใบมะหวด ล้างหน้าให้สะอาด นำใบมะหวดมาขยี้กับน้ำให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาพอกทาผิวหน้าบ่อยๆ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง 6.ดู่ท่ง หัวฝนกับน้ำหรือน้ำมะนาวทาหน้าบ่อยๆ 7.ตาลเดี่ยว หัวฝนกับน้ำทาหน้า 8.เมล็ดบานเย็น แกะเนื้อหุ้มเมล็ดออกใช้ขยี้ทาหน้า มีการค้นพบว่าสารในกลุ่มกรดไลโนเลอิก (Linoleic acid) เป็นทางเลือกใหม่ของการรักษาฝ้า สารนี้พบมากในเมล็ดบานเย็นและผักเบี้ยใหญ่ มีประสิทธิภาพดีและมีผลข้างเคียงน้อยมาก นอกจากมีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินแล้ว ยังสามารถทำลายเม็ดสีเหล่านี้อีกด้วย ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เป็นปกติ ทำให้ฝ้าจางลง และ 9.ผักเบี้ยใหญ่ ตำให้ละเอียดนำมาพอหน้าทิ้งไว้สัก 15 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำ ซึ่งทั้งหมดผลข้างเคียงน้อยมาก ยิ่งผักเบี้ยใหญ่ เป็นสมุนไพรสำหรับคนผิวแพ้ง่ายด้วย
ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ เภสัชกรปฏิบัติการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ปัจจุบันต่างชาติยังนิยมนำผักเบี้ยใหญ่ไปทำเป็นครีมบำรุงผิว โดยเฉพาะไวท์เทนนิ่ง ลดริ้วรอย เพราะมีความชุ่มชื่นมาก สำหรับรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรก็เช่นกัน มีการทดลองในอาสาสมัคร 30 คนพบว่าลดริ้วรอย ลดฝ้า หน้าขาวกระจ่างใสได้ จึงมีการทำเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใน 3 กลุ่ม คือ ครีมบำรุงผิวหน้า ครีมกันแดด และโลชั่นบำรุงผิวกาย ซึ่งจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายในงานมหกรรมครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานยังมีบูธอื่นๆน่าสนใจ อาทิ องค์การเภสัชกรรม(อภ.) ยังเปิดตัวสารสกัดมะหาด ช่วยหน้าขาวกระจ่างใสอีก
