“อธิบดีกรมคุก” แจงแค่พาผู้ต้องขังไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐาน (มีคลิป)

“อธิบดีกรมคุก” แจงแค่พาผู้ต้องขังไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐาน

เมื่อเวลา 13.30น.วันที่ 17 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงกรณีมีจดหมายขอให้ช่วยชีวิตจากทนายอานนท์ หรือ นายอานนท์ นำภา ปรากฏขึ้นในสื่อโซเชียล โดยยื่นต่อผู้พิพากษา รวมถึงกรณีนายเพนกวินหรือ พริษฐ์ ชิวารักษ์ ประกาศลั่นอดอาหารในเรือนจำ

นายอายุตม์ กล่าวว่า กรณีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ได้ประกาศแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะอดอาหาร และดื่มเพียงน้ำ นม เกลือแร่เท่านั้น กรมราชทัณฑ์ จึงจัดเตรียมนมและเกลือแร่ให้ผู้ต้องขัง พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด(CCTV) และเตรียมทีมแพทย์ พร้อมนักจิตวิทยาคอยจับตาดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ หากพบว่ามีอาการป่วยหรือทรุด จะรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ทันที

 

นายอายุตม์ กล่าวว่า กรณีของนายอานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์ ได้ระบุผ่านจดหมายว่าถูกเจ้าหน้าที่พยายามนำตัวออกจากห้องควบคุมกลางดึกในยามวิกาลนั้น ขอยืนยันว่าเป็นการนำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นมาตรการปกติของเรือนจำที่ป้องกันการแพร่ระบาด เพื่อป้องกันเหตุจลาจลกรณีข่าวลือเรื่องการระบาดของโควิด-19 ภายในเรือนจำ เท่าที่ผ่านมาการคัดกรองในรูปแบบดังกล่าว ก็ได้ป้องการแพร่ระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี โดย 90 เปอร์เซ็นต์ ก็ตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการจากการตรวจสอบด้วยวิธีการนี้

Advertisement

นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวระบุว่า ตนเป็นรองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งเป็นแพทย์ด้วย ขอชี้แจงว่า เหตุการณ์ในวันนั้น หลังจากที่ศาลมีคำสั่งให้ย้ายจำเลยทั้ง 3 คน ไมค์ ไผ่ และโตโต้ จากเรือนพิเศษธนบุรี มาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทั้งหมดมาถึงประมาณ 18.00 น.ซึ่งจำเลยทั้งสามคนมาจากพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังมีการทำประวัติ ได้นำตัวไปขังรวมกับจำเลยคนอื่นๆ ที่แดน 2 ซึ่งใช้เป็นสถานที่กักกันหรือพักโรคก่อน จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ได้ให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เข้าไปเจรจาขอความร่วมมือ โดยขอร้องให้ทั้งสามคนย้ายห้องแยกจากผู้ต้องขังคนอื่นๆไปอยู่อีกห้องหนึ่ง ระหว่างรอเจ้าหน้าที่มาตรวจโควิด-19 แต่ทั้งสามคนไม่ยินยอม จึงได้เชิญแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นแพทย์หญิง เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือเข้ามาในเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งจากการเจรจาทั้งสามคนไม่ยอมให้ความร่วมมือ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องขังทั่วไป 9 คนออกไปตรวจโควิด-19 โดยนำตัวออกไปตรวจในที่โล่งทีละคน ใช้เวลาตรวจทั้ง 9 คนประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ

ขณะที่เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน เจ้าหน้าที่ได้กลับมาเจรจากับจำเลยที่เหลือขอให้ย้ายห้องอีกครั้ง แต่ทั้งหมดก็ไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่ชุดดูแลความปลอดภัยภายในเรือนจำ ได้มานำผู้ต้องขังคนอื่นทั้ง 9 คน ออกไปและดำเนินการกักตัว 14 วัน ที่ไม่ยอมตรวจโควิด-19 ยืนยันว่าตลอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวเลย ซึ่งก็ไม่มีเหตุความวุ่นวายใดๆเกิดขึ้น ต่อมาทางผู้ถูกคุมขังได้พูดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ว่า “พรุ่งนี้มีเรื่องแน่”
ทั้งนี้การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเวลากลางคืนถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมาก็เคยตรวจป้องกันการแพร่ระบาด ในลักษณะแบบนี้ขึ้น ในหลายเรือนจำ โดยก่อนหน้านี้ ก็เคยมีการตรวจ 1 ในแกนนำ ในช่วงเวลากลางคืนมาแล้ว ซึ่งแกนนำคนดังกล่าว ยังได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนอื่นๆอย่างละเอียดด้วย ขอยืนยันว่าการควบคุมตัว หรือนำผู้ต้องขังออกไปนอกสถานที่ อาทิ ไปศาล จะมีการค้นตัวทั้งขาไปและขากลับ รวมถึงการเยี่ยมญาติด้วย ดังนั้นจดหมายจากทนายอานนท์ ไม่ได้มีการนำออกไปจากเรือนจำ ซึ่งภายในเรือนจำไม่มีเครื่องมือสื่อสาร ขนาดนาฬิกาก็ไม่มี

โดยทาง กรมราชทัณฑ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแอดมินเพจของอานนท์ นำภา ไปก่อนหน้านี้เแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งจะแจ้งความเพิ่มเติมอีก เพื่อสืบหาว่าแอดมินใช้งานจากแหล่งไหน ภายในเรือนจำยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกพื้นที่ รวมถึงภายในห้องควบคุม หากศาลให้เรียกหลักฐานส่วนนี้มาแสดง ก็สามารถนำไปเสนอต่อศาลได้ยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกาย เกิดขึ้นภายในเรือนจำ หรือ ละเมิดสิทธิของผู้ถูกควบคุมหรือผู้ต้องขังแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image