วันที่ 26 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้รับเรื่องร้องเรียนจากกรณีการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติต่อชนเผ่าพื้นเมือง “มานิ” ที่มีความพยายามจับกุมโดยพลการข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย ขณะเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองภาคใต้ ได้ร้องเรียนเร่งด่วนถึงผู้แทนพิเศษองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) หามาตรการฉุกเฉิน ว่าด้วยเรื่องสิทธิชนเผ่าพื้นเมือง และคณะกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยเรื่องการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ช่วยยุติการคุกคามชนเผ่าพื้นเมืองชาวมานิที่อ่อนไหวและต้องได้รับการคุ้มครองจากหน่วยงานรัฐทุกหน่วย เนื่องจากการไร้สัญชาติ
กรณีที่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ของรัฐ 5 คนมาที่โรงแรมบุรีศรีภู บูติก โฮเต็ล อ.หาดใหญ่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) จัดงาน มีนายวัส ติงสมิตร ประธาน กสม.เป็นประธาน และพยายามจะจับกุมตัวนายปอย (ไม่มีนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาวมานิจาก จ.สตูล ที่พาลูกมาร่วมงานเพื่อเล่าปัญหาชีวิตความเป็นอยู่และการไม่มีสถานะทางกฎหมาย เป็นบุคคลไร้สัญชาติ ซึ่งมักประสบกับความยากลำบากในการเดินทางนอกพื้นที่ ตัวแทน กสม.ได้เจรจาและติดต่อประสานงานกับฝ่ายปกครองระดับสูงของจังหวัด ได้นำนายปอยขึ้นห้องพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นายเดินทางกลับไป แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเฝ้าอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรม
นายวิทวัส เทพสง ประธานเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองภาคใต้กล่าวว่า มีชาวมานิอาศัยอยู่ในป่าเทือกเขาบรรทัดประมาณ 300 คนในเขต จ.พัทลุง ตรัง และสตูล มีกลุ่มอยู่ในป่าลึก กลุ่มที่เข้า-ออกระหว่างชายป่า และกลุ่มที่เริ่มออกมาติดต่อกับคนภายนอก ปัญหาที่พบคือเรื่องแหล่งอาหารที่ลดลง และปัญหาสถานะทางทะเบียน ไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ไม่มีสิทธิในด้านต่างๆ รวมทั้งการรักษาพยาบาล
“ปัญหาการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของชาวมานิ เนื่องจากไม่มีบัตรและไม่สามารถรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐได้เลย อยากให้ยูเอ็นยุติการละเมิดสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองและให้สิทธิในการรักษาพยาบาลต่อกลุ่มชาติพันธุ์มานิที่ยังไม่สามารถได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานและปัจจัยสี่ เมื่อประสบกับการเจ็บป่วยก็ไม่สามารถรักษาตนเองและได้รับการบริการจากรัฐ” นายวิทวัสกล่าว