เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดตัวโครงการ 8,400 ทุ่นประชารัฐพิทักษ์ทะเล เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกามหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 12 ส.ค.2559 ปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งของท้องทะเลไทยคือปัญหาขยะ โดยมีข้อมูลที่น่าตกใจมากซึ่งระบุในเว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีว่า ประเทศไทยมีขยะในทะเลมากเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยมีการปล่อยขยะลงสู่ท้องทะเลถึง 1 ล้านกว่าตันต่อปี เป็นเรื่องที่ชาวโลกเพ่งเล็งไทยว่าผลิตขยะลงสู่ท้องทะเล ส่วนใหญ่เป็นขยะพลาสติกที่ยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาแน่ชัดได้ ซึ่งต้องดำเนินการศึกษารายละเอียดต่อไปว่าเกิดจากสาเหตุใด ผู้ประกอบการ โรงงานต่างๆ หรือไม่ เมื่อได้ข้อมูลที่แน่ชัดก็จะจัดทำแผนดำเนินการแก้ปัญหาในระยะ 5 -10 ปีนับจากนี้ไป โดยได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ขณะที่ในพื้นที่อุทยานฯ ทางทะเลก็ต้องมีการสำรวจปริมาณขยะในพื้นที่ เพื่อจัดทำแผนแก้ปัญหาเร่งด่วน รวมทั้งต้องมีการจำกัดปริมาณขยะพลาสติกที่จะเข้ามาในพื้นที่ ที่สำคัญต้องปรับพฤติกรรมของคนไทยให้ได้ ทั้งนี้ในส่วนของกรมอุทยานฯ กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างกรม โดยจะจัดตั้งสำนักอุทยานฯ ทางทะเลขึ้นมา เพื่อดูแลอุทยานฯ ทางทะเลทั่วประเทศ 26 แห่ง แยกจากอุทยานฯ ทางบก โดยจะต้องมีการผลิตบุคคลากรที่เป็นมืออาชีพมีความรู้ความสามารถด้านการบริหารจัดการอุทยานฯ ทางทะเลเข้ามาทำหน้าที่ต่อไป
ผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ (สปช.) และนักวิชาการทางทะเล กล่าวว่า ขยะในทะเลส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างมาก โดยที่ผ่านมามีเต่าทะเลกว่า 100 ตัว ที่ต้องตายลงหรือออกจากระบบเพราะกินขยะพลาสติกเข้าไป ทำให้ระบบนิเวศในทะเลเปลี่ยนแปลง โดยเวลานี้จะเห็นได้ว่าแมงกระพรุนจำนวนมากส่งผลกระทบต่อชายหาดในหลายพื้นที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเต่าทะเลซึ่งเป็นสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดที่กินแมงกระพรุนเป็นอาหารลดจำนวนลง ทำให้แมงกระพรุนขยายพันธุ์ได้มากขึ้น
