| ที่มา | สกู๊ปหน้า 1 มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เกิดเรื่องวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ เมื่อมีการแชร์เอกสารบัญชีข้อมูลรับรองการรับโอนข้าราชการทหาร มาเป็นตำรวจ ในสังกัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จำนวน 41 นาย
ส่วนใหญ่เป็นทหารเรือชั้นประทวนตั้งแต่ยศ จ่าเอก พันจ่าเอก พันจ่าโท โอนย้ายมาเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยศดาบตำรวจ ในระดับ ผบ.หมู่ด่าน และ ผบ.หมู่ ตม.ส่วนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยคงชั้นเงินเดือนเดิม
สร้างความสงสัยในหมู่ตำรวจด้วยกันเองอย่างกว้างขวาง
เพราะหน่วยงานอย่าง “สตม.” นั้น ถือว่าระดับ “เกรดเอ”
โดยปกติ ความเป็นเกรดเอ ทำให้ตำรวจสังกัดหน่วยอื่น ยังวิ่งกันฝุ่นตลบอบอวลอยากเข้าไปอยู่ในสังกัด
แต่จะติดขัดหลักเกณฑ์ ที่ต้องผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะ “ภาษาอังกฤษ” ต้องสอบผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ด้วย
และมีข้าราชการต่างหน่วย 41 โอนเข้ามา กลายเป็นเรื่องที่ต้องการคำอธิบาย
สอบถามไปยัง “บิ๊กอู๊ด” พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้รับคำชี้แจงว่า เมื่อปี 2561 สตม.ได้รับการสนับสนุนเรือยนต์ตรวจการณ์ 27 ลำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานสกัดกั้นป้องกันปราบปราม รวมถึงภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในสังกัด บก.ตม.3-6 ที่มีด่าน ตม.ทางน้ำ เช่นที่ จ.ตราด จ.ชลบุรี จ.นราธิวาส จ.ประจวบคีรีขันธ์
ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จึงมติอนุมัติการกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประจำเรือยนต์ตรวจการณ์ระดับตำแหน่ง ผบ.หมู่-รอง สว.ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามทางน้ำให้ ตม.จังหวัด และด่าน ตม.สังกัดดังกล่าว
พล.ต.ท.สมพงษ์ เผยอีกว่า สตม.มีบันทึกเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ขออนุมัติรับโอนทหารสังกัดกองทัพเรือมารับราชการตำรวจในสังกัด เนื่องจาก สตม.ขาดแคลนกำลังพลที่มีความชำนาญการขับเรือและซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่างๆ
หากได้รับสนับสนุนกำลังพลที่มีประสบการณ์การทำงานทางน้ำและทะเลพื้นที่ต่างๆ ไม่น้อยกว่า 10 ปี และมีใบอนุญาตนายท้ายเรือตามกฎหมายกำหนด จะช่วยประหยัดงบประมาณการฝึกอบรมและจัดทำใบอนุญาตนายท้ายเรือเพิ่มเติมแก่ตำรวจ ทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อสนองนโยบายรัฐบาล อีกทั้ง ตร.ยังไม่สามารถผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเองได้
“แม้จะมีตำรวจน้ำ แต่ก็ยังต้องฝากเรียนที่โรงเรียนนายเรือ จึงสอบถามความสมัครใจทหารเรือผู้มีประสบการณ์ ที่มีหน้าที่เฉพาะในการขับเรือ ยืนยันไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของราชการและประเทศชาติ จึงต้องเลือกคนมีความรู้ความสามารถ ที่รับเข้ามาทำงานได้เลย ไม่ต้องเสียงบเสียเวลา อีกทั้งเรือมีราคาแพง ไม่มีประกัน และมีเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ
“ย้ำว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติ เพราะเป็นการรับเฉพาะทาง ไม่ได้แอบรับโอน รวมถึงมีการสอบถามและคัดเลือกมาประจำเรือ ไม่ใช่ประจำด่าน แต่เรือก็ต้องอยู่ที่ด่าน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่รับโอนมา จะไม่ได้ทำหน้าที่ ตม.ด่านเหมือน ตม.ทั่วไป หากผู้ใต้บังคับบัญชามีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามได้” ผบช.สตม.กล่าว
“บิ๊กอู๊ด” ยังให้ข้อมูลต่อว่า ทหารเรือชุดที่รับเข้ามานั้น มีเพียงชุดเดียว ยืนยันว่าตำแหน่งอื่นจะรับโอนมาไม่ได้ และเป็นการโอนย้ายตามขั้นตอนที่กำหนดลำดับชั้นยศ จะข้ามขั้นไม่ได้ เหตุนี้ สตม.จึงได้รับอนุมัติให้ทาบทามการรับโอนข้าราชการทหาร โดยประสานกองทัพเรือ และ ผบ.ทร.ได้อนุมัติให้โอน ตร.จึงอนุมัติให้รับโอนข้าราชการทหารเรือที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารต่างๆ เป็นตำรวจ สตม.ทั้งสิ้น 41 นาย
อีกประเด็นก็คือ การโอนย้ายระหว่างหน่วยงาน หรือกระทรวงหนึ่งไปอีกกระทรวงหนึ่งสามารถดำเนินการได้ตามระเบียบข้าราชการปกติหากหน่วยงานปลายทางเปิดรับในตำแหน่งที่ว่าง
แต่ถ้าไม่เปิดรับก็โอนย้ายไม่ได้ การโอนย้ายแต่ละอัตราจะมีรายละเอียดคุณสมบัติระบุต่อท้ายชัดเจน ซึ่งไม่สามารถเอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดคนหนึ่งหรือเฉพาะกลุ่มได้
เมื่อเปิดหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2547 ลักษณะที่ 6 ระเบียบข้าราชการตำรวจ หมวด 2 การบรรจุ การแต่งตั้ง และการเลื่อนขั้นเงินเดือน มาตรา 50 กำหนดการบรรจุบุคคลเข้ารับตำรวจโดยการสอบแข่งคัด หรือการคัดเลือกทั้งชั้นประทวนและสัญญาบัตร
ขณะที่มาตรา 62 ระบุว่า การโอนตํารวจไปรับราชการในส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นจะกระทําได้เมื่อเจ้าตัวสมัครใจและส่วนราชการหรือหน่วยงานต้องการจะรับโอนผู้นั้น โดยให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่ขอรับโอน ทําความตกลงกับ ตร.
มาตรา 63 (1) การโอนข้าราชการซึ่งไม่ใช่ตํารวจหรือการโอนพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาบรรจุเป็นตํารวจ ยกเว้นข้าราชการการเมือง ข้าราชการซึ่งอยู่ระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ และพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งอยู่ระหว่างทดลองปฏิบัติงาน ให้กระทําได้เมื่อเจ้าตัวสมัครใจและ ตร.ต้องการจะรับโอนผู้นั้น โดยให้ ตร.ทําความตกลงกับผู้มีอํานาจสั่งบรรจุของส่วนราชการหรือหน่วยงานสังกัดเดิม
ในการนี้ ให้ ตร.พิจารณาโดยคํานึงถึงประโยชน์ที่ทางราชการตํารวจจะได้รับ ทั้งนี้ ในการดําเนินการรับโอนการกําหนดตําแหน่ง ชั้นยศและอัตราเงินเดือน และการนับเวลาราชการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่กําหนดในกฎ ก.ตร.
เป็นอีกเรื่องที่เกิดในหน่วยงาน ตม.ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวความขัดแย้งภายใน เป็นข่าวใหญ่มาแล้วหลายเรื่อง รวมถีงโครงการเรือยนต์ตรวจการณ์ ตม.มูลค่า 348 ล้านบาท ซึ่งมี ตม.จังหวัดหลายแห่ง รับมอบเรือไปแล้ว แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ขับได้ หรือน่านน้ำไม่เอื้ออำนวย
อีกทั้ง ตร.เอง ยังมีกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) อยู่แล้ว ตามลำน้ำโขงและน่านน้ำสำคัญก็มีหน่วยปฏิบัติการที่รับผิดชอบอยู่แล้ว จึงมองว่าเป็นการซ้ำซ้อนหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ต้องรอดูผลการทำงานกันต่อไป
