มีผลคืนนี้! ศบค. ปิดสถานบันเทิง-อาบอบนวด 41 จังหวัด 14 วัน

มีผลคืนนี้! ศบค. ปิดสถานบันเทิง-อาบอบนวด 41 จังหวัด 14 วัน

เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กช่วงเช้าวันนี้ ว่าจะมีการออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพรก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะมีผลในคืนนี้ ตั้งแต่ 00.00 น. เป็นต้นไป

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า 1.ปิดสถานบริการหรือ สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อาบอบนวด ใน 41 จังหวัด เป็นการชั่วคราวอย่างน้อย 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10-23 เม.ย. ทั้งนี้ เพิ่มเติมคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีอำนาจสั่งปิดสถานเป็นการชั่วคราวเพิ่มเติม ตามความเหมาะสมได้

2.พิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการ ซึ่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบประเมินความเหมาะสม เสนอต่อ ศบค.ชุดเล็ก ก่อนเสนอต่อท่านนายกรัฐมนตรี อนุญาตให้มีการผ่อนคลายมาตรการชั่วคราวตามข้อที่ 1

3.ตรวจสอบมาตรการป้องกันโรคและจัดระเบียบให้เจ้าหน้าที่พนักงานฝ่ายปกครอง พนักงานฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่อื่นตามความรับผิดชอบ เข้าปฏิบัติงานเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจพื้นที่ สถานที่ กิจการกิจกรรมต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีอำนาจสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวได้

Advertisement

“ถ้าร้านอาหารไม่ต้องการให้คนอื่นมาเข้ม ก็ต้องเข้มกับตัวเอง ต้องจัดแบบเว้นระยะห่าง หรือเปิดกลับบ้าน ใส่หน้ากากระหว่างรอคอย จัดพื้นที่ไม่แออัด เรื่องเหล่านี้ต้องทำ เพราะหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง และมีการติดเชื้อเชื่อมโยงกิจการ ตรงนี้มอบอำนาจเจ้าหน้าที่ที่รับผิชอบสั่งปิดชั่วคราวได้ ไม่ต้องขอมา ศบค.แล้ว หากเกิดอะไรขึ้นที่สุ่มเสี่ยงติดโรคก็สามารถถูกปิดได้เช่นกัน มาตรการที่มีการกำหนดออกไปจะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการ เป็น 3 ประสานเพื่อให้เราเกิดความสำเร็จได้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ประเด็นปัญหาของโรงพยาบาลเอกชนไม่รับตรวจโควิด-19 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าน้ำยาต่างๆ พอมี แต่เกิดขึ้นจากกฎเกณฑ์ว่าหากตรวจเชื้อพบที่ใดจะต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล(รพ.) แห่งนั้นทันที ซึ่งทำให้เตียงเต็มเกินศักยภาพ ไม่สามารถทำให้ตรวจต่อได้

“รพ.เอกชน ยินดีที่จะตรวจหาเชื้อให้ แต่เป็นเรื่องความต้องการเตียงหรือการส่งต่อมากขึ้น ซึ่งทางปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะต้องประชุมและรายงานผลในวันนี้ แต่มีข้อมูลตัวจากกรุงเทพมหานคร ว่า 1.การขยายศักยภาพเตียงของพื้นที่ได้มากถึง 5,000 เตียง พร้อมทั้ง 2.ยังสามารถเพิ่มโรงแรมสถานกักตัว จัดทำเป็น Hospitel ได้อีกจำนวนหนึ่งและอีกทางเลือกที่ 3 คือ รพ.สนาม ที่มีพื้นที่ รพ.บางขุนเทียน และอื่นๆ สามารถรองรับประชาชนได้ ซึ่งก็ได้พูดถึงว่าจะต้องมีการตรวจหาเชื้อใน รพ.เอกชน แต่ต้องมีรถรับส่งต่อไปยังสถานที่รักษาอื่นๆ หรือเข้าสู่ระบบแยกกัก ซึ่งต้องปรับให้สมกับสถานการณ์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image