ป่าไม้เตรียมย้าย”40 วัด”พ้นพื้นที่ ประสานพระพัฒนา พุทธอุทยาน

นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2538 พิจารณาการแก้ไขปัญหาเรื่องการป้องกัน แก้ไขปัญหาวัดในพื้นที่ป่าไม้ เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข และได้มอบหมายให้กรมป่าไม้ร่วมกับสำนักพระพุทธศาสนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบวัดในพื้นที่ป่าไม้ตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีวัดที่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 7 พันกว่าแห่งโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มแรก คือ วัดที่ไม่เหมาะสมที่จะตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ เพราะมีความล่อแหลมที่อาจจะส่งผลให้ระบบนิเวศเกิดความเสียหายได้ ต่อมาจึงมีการลงมติว่า วัดที่เข้าข่ายดังกล่าวจะต้องออกจากพื้นที่ของป่าไม้ ซึ่งมีจำนวนกว่า 40 แห่ง กลุ่มที่ 2 คือ วัดที่อยู่ในพื้นที่ป่าไม้ที่สามารถจะตั้งวัดได้ โดยทางสำนักพุทธศาสนาเป็นผู้รับรองว่า เมื่อกรมป่าไม้อนุญาตให้วัดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้ จะต้องปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของทุกฝ่ายโดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ซึ่งในส่วนนี้มีการยื่นขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 1,700 แห่ง โดยกรมป่าไม้อนุญาตให้สำนักพระพุทธศาสนาเป็นผู้ดำเนินการในการออกใบอนุญาตขอใช้ประโยชน์โดยยึดตามเงื่อนไขที่กำหนด

“กลุ่มที่ 3 คือ ในส่วนของโครงการพระพุทธศาสนากับป่าไม้ คือการพัฒนาจัดตั้งในรูปแบบของ “พุทธอุทยาน” เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านพระพุทธศาสนาและปฏิบัติธรรมควบคู่กับการดูแลป่าไม้ รวมถึงเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ แหล่งการเรียนรู้ การศึกษาทางธรรมชาติ เป็นสถานที่ในการพักผ่อนของคนในชุมชนและผู้ที่เดินทางไปปฏิบัติธรรม สถานที่ดังกล่าวจะไม่มีการสร้างสิ่งก่อสร้างถาวรขนาดใหญ่” นายชลธิศกล่าว และว่า โครงการดังกล่าวได้ร่วมกันดำเนินการระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับสำนักพระพุทธศาสนากว่า 800 แห่ง ยังคงเหลืออีกประมาณ 2-3 พันแห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบร่วมกัน โดยกรมป่าไม้จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าไม้อย่างเข้มข้นต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image