ปีก่อนตอนที่โควิด-19 เริ่มระบาด รัฐมนตรีผู้มีหน้าที่เม้มปากหลั่งน้ำตาปราศรัยต่อประชาชนว่า “ขอให้มั่นใจในพวกเรา แล้วเราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”
แล้วก็ด้วยอุปนิสัยว่านอนสอนง่าย ไม่ว่ารัฐขอความร่วมมืออะไร ประชาชนไม่เคยปริปากบ่น ให้หยุดทำมาค้าขาย ไม่ได้รับเงินช่วยสักบาทก็ได้แต่อดกลั้น
ถึงขั้นไม่มีจะกินยังอดทน !
วันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กทวนความจำการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างบาดใจว่า ครั้งแรก-สนามมวย ฝีมือทหาร, ครั้งสอง-แรงงานต่างด้าว ฝีมือทหาร, ครั้งสาม -บ่อนการพนัน ฝีมือตำรวจ, ครั้งสี่-คริสตัลคลับ ฝีมือตำรวจ
แต่ทุกครั้งที่เผชิญหน้าความเลวร้ายมักได้ยินนายกรัฐมนตรี “คนนี้” วอนและสอนประชาชน
“วอน” ให้ประชาชนร่วมมือกับ “สอน” วิธีประพฤติปฏิบัติราวกับชาวบ้านเป็น “ตัวปัญหา” !
กว่า 1 ปีแล้วที่โควิด-19 ระบาดในประเทศไทย และก็กว่า 1 ปีแล้วที่ประชาชนถูกขอร้องให้ “มั่นใจ” แต่ที่รัฐบาลภายใต้การนำของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำได้ก็แค่ “คำแก้ตัว”
มีแต่การผลักความรับผิดไปให้ผู้อื่นชี้นิ้วไปที่ “แพะรับบาป”
คำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ที่ตั้งคณะกรรมการให้ไปสอบสวนข้อเท็จจริงว่า สน.ทองหล่อปล่อยปละละเลยให้มีสถานบริการจนเป็นเหตุให้โควิด-19 แพร่ระบาดรอบนี้ หรือไม่นั้นเหมือนกับการหาแพะรับบาป
ต้องเข้าใจก่อนว่าคนที่จะปักธงลงทุนหลายร้อยล้านย่านทองหล่อนั้นย่อมไม่ใช่ นายชวลิต พุทธราช อายุ 30 ปี ผู้จัดการร้านคริสตัลคลับกับนายครรชิต ซื่อบริสุทธิ์ใจ อายุ 29 ปี ผู้จัดการเอมเมอรัลด์ผับ ที่ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดี และศาลพิพากษาจำคุกคนละ 2 เดือนอย่างแน่นอน
“คริสตัลคลับ” กับ “เอมเมอรัลด์ผับ” ใหญ่โตโอ่อ่าอลังการ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เจ้าบ้านย่อมเข้าใจดีว่าจะต้องวางตัวอย่างไร
เมื่อคริสตัลคลับกับเอมเมอรัลด์ผับกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ของโควิด-19 ตำรวจ สน.ทองหล่อ ก็รับเคราะห์กรรมไปด้วย 18 นาย
เป็นความจริงว่า ตำรวจนครบาลนั้นใครได้อยู่ สน.ทองหล่อ ถือว่าเป็น “ยอดตำรวจ”
แต่ “ยอดตำรวจ” จะอ่อนปวกเปียกทันทีที่เดินเข้าในซอยทองหล่อ !?!!