สายด่วน 1668 แจงภาพ ‘จนท.ไม่มีคอมพ์ฯ-ใช้ปากกาจด’ แค่ส่วนหนึ่ง ของจริงอุปกรณ์ครบมือ
วันที่ 23 เมษายน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวชี้แจงกรณีมีผู้วิจารณ์ในโลกโซเชียลถึงศักยภาพในการดำเนินงานสายด่วนเฉพาะกิจ 1668 ที่ไม่เจ้าหน้าที่จดด้วยปากกา ไม่มีคอมพิวเตอร์บันทึกข้อมูล ว่า ภาพที่ปรากฏออกมานั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำงานเฉพาะกิจ จิตอาสาของพวกเรา เป็นเพียงภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ทีมตอบสนอง และประสานงาน ซึ่งจะทำงานในส่วนของการโทรศัพท์กลับหาประชาชนที่ให้ข้อมูลไว้ทั้งทางโทรศัพท์ และทางไลน์ @sabaideebot (สบายดีบอต) ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งโทรกลับเพื่อซักประวัติ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ต้องมีพื้นที่ในการจดข้อมูล และต้องทำอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถโทรติดตามประชาชนที่ให้ข้อมูลไว้ และประสานงานได้อย่างทั่วถึง ไม่ใช่ส่วนทีมรับสายฮอตไลน์ (Hotline) และทีมข้อมูล ที่มีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การสื่อสารใช้งานอย่างแน่นอน จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจถึงการทำงาน และรับรู้ถึงความตั้งใจของเจ้าหน้าที่จิตอาสาที่ต่างทำงานกันอย่างทุ่มเท พร้อมยืนยันจะทุ่มเททำงานต่อไป
“ผมยืนยันว่าเรามีคอมพิวเตอร์ เครื่องไม้เครื่องมือในการบันทึก ตลอดจนจัดเก็บข้อมูลเพียงพอกับปริมาณงานที่เราทำอยู่ตอนนี้ ซึ่งการทำงานเราแบ่งออกเป็น 4 ทีม คือทีมรับสาย ทีมข้อมูล ทีมแพทย์ และทีมตอบสนอง ทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว แต่อย่างที่ผมเรียนย้ำเสมอว่า 1668 คือ สายด่วนเฉพาะกิจ ทุกท่านคือ จิตอาสาที่เป็นแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ ที่สามารถให้คำแนะนำเบื้องต้น โดยใช้ทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางการแพทย์ จิตวิทยาในการสื่อสารกับผู้ป่วยและการให้กำลังใจ เปรียบเสมือนผู้ป่วยคือคนในครอบครัว เพื่อคลายความกังวลใจแก่ผู้ติดเชื้อได้ แม้ทุกท่านมีงานประจำที่ต้องปฏิบัติเป็นจำนวนมาก แต่ก็อาสาเข้ามาทำงานสายด่วนดังกล่าวโดยไม่มีวันหยุดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งยังยินดีให้โอนสายเรียกเข้าต่าง ๆ เข้าหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวของตนเอง ผมจึงอยากจะขอกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ด้วย” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการวิพากวิจารณ์ถึงเครื่องมือ และอุปกรณ์การทำงานว่าไม่มีความพร้อมนั้น นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า แม้ว่า 1668 เป็นสายด่วนเฉพาะกิจที่เปิดให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 08.00 -22.00 น. แต่มีการทำงานอย่างละเอียดโดยแบ่งเป็น 4 ทีมหลัก คือ 1.ทีมรับสายฮอตไลน์ 1668 จากผู้ป่วยโควิด-19 สอบถามข้อมูลรายละเอียดของผู้ป่วย 2.ทีมข้อมูล มีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลจากทีมงานสายด่วนและทีมประสานงาน วิเคราะห์ข้อมูล จัดทำฐานข้อมูล สรุปข้อมูลรายวัน 3.ทีมแพทย์ มีทีมแพทย์ประเมินอาการระดับความรุนแรงของผู้ป่วย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับ ตามความรุนแรงของโรค และ 4.ทีมตอบสนองและประสานงาน มีหน้าที่ประสานขอเตียงจากโรงพยาบาลเป้าหมาย (ผ่านศูนย์ส่งต่อโรงพยาบาล (รพ.) ราชวิถี กรณีเป็นผู้ติดเชื้อในความรับผิดชอบของกรมการแพทย์ และประสานผ่านศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรณีเป็นผู้ติดเชื้อในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลนอกสังกัดกรมการแพทย์) รวมทั้งโทรเยี่ยมติดตามอาการของผู้ป่วย ซึ่งแต่ละสายใช้เวลาในการพูดคุยกับผู้ป่วยประมาณ 20-40 นาที
“สำหรับการดำเนินการรับสายที่โทรเข้ามา จนถึงวันที่ 21 เมษายน 2564 รวม 3,477 สาย โทรเยี่ยมติดตาม 3,277 สาย ผู้ติดต่อขอเตียง 1,584 คน รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้ว ทั้งนี้ กรณีที่โทร.1668 แล้วไม่มีผู้รับสายนั้น เกิดจากแต่ละวันมีผู้ใช้จำนวนมาก โดยปัจจุบันมีผู้โทรเข้า 1668 มากกว่า 200 สาย จนทำให้คู่สายล้น ทางกรมการแพทย์ได้จัดให้มีการส่งต่อข้อมูล ด้วยเทคนิค convert สายเข้าโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของจิตอาสาจากทั่วประเทศ ทำให้สามารถรับสายเพิ่มได้อีกกว่า 10 คู่สาย ทั้งนี้ หากไม่สามารถติดต่อ 1668 ได้ ขอให้ติดต่อทางแอพพลิเคชันไลน์ โดยการเพิ่มเพื่อน Line @sabaideebot กรอกข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการประสานติดต่อเจ้าหน้าที่อีกทาง” นพ.สมศักดิ์ กล่าและว่า กรมการแพทย์ยืนยันว่ามีการปรับปรุงระบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรวดเร็วขึ้น