ลูกชายคาใจ หลังพ่อฉีดวัคซีนโควิดดับ ชี้พ่อตรวจร่างกายประจำ หมอพรทิพย์ เผยทางพิสูจน์

ลูกชายคาใจ หลังพ่อฉีดวัคซีนโควิดดับ ชี้พ่อเป็นคนแข็งแรง หมอพรทิพย์ เผยทางพิสูจน์

จากกรณีที่ นายสถาพร ม่วงวัง วัย 27 ปี เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ นพ.สุรินทร์ สืบซึ่ง นายแพทย์สาธารณสุขจ.ปทุมธานี ให้ผ่าพิสูจน์ศพนายแพทย์สมชาย วังม่วง พ่อที่เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ 3 วัน

ลูกยื่นหนังสือ สสจ.ปทุมฯ ขอให้ผ่าพิสูจน์ศพพ่ออีกครั้ง หลังฉีดวัคซีนโควิดแล้วเสียชีวิต

ทั้งนี้ สถาพร ม่วงวัง ลูกชายคนขับรถเอกซเรย์ ที่เสียชีวิต ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ ถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ โดยได้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ ทนายความชื่อดัง มาถกในประเด็นดังกล่าว

นายสถาพรกล่าวว่า ยืนยันว่าคุณพ่อเป็นคนแข็งแรง ไม่ได้มีโรคร้าย ไม่ได้กินยารักษาโรคประจำตัวอะไร เรื่องที่คุณพ่อไปฉีดวัคซีน ก่อนไปฉีดก็ไม่ได้มาปรึกษาอะไร และที่พ่อต้องฉีดเพราะเป็นผู้มีความเสี่ยงเนื่องจากทำงานด่านหน้า เป็นคนขับรถเอกซเรย์ที่ต้องใกล้ชิดผู้ป่วย ผมเองเพิ่งมารู้ว่าพ่อฉีดวัคซีนก็ตอนไปรับศพคุณพ่อ ซึ่งก่อนหน้าที่คุณพ่อจะเสียชีวิต พ่อไปตกกุ้งที่แม่น้ำเจ้าพระยา แล้วมีอาการแน่นหน้าอก จึงไปขอความช่วยเหลือที่โรงน้ำดื่มแถวนั้น ทางยามเขาก็ให้ความช่วยเหลือตามรถมารับไปโรงพยาบาล ซึ่งพ่อยังไม่ได้เสียชีวิตทันที คุณหมอแจ้งว่าได้มีการช่วยชีวิตอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลา 22.30 น.

Advertisement

“พอทราบเรื่องผมก็โทรถามทางโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าพ่อกลับบ้านแล้ว ผมจึงมาตามหาพ่อที่บ้าน ตามจนไม่รู้จะตามยังไงแล้ว จึงโทรหาคนที่ไปรับตัวพ่อให้ช่วยเช็กหน่อยว่าพ่อกลับมารึยัง พอเขาไปเช็กให้ก็ได้รับแจ้งว่าพ่อเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. เวลา 22.30 น.แล้ว ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าพ่อฉีดวัคซีน มารู้วันที่ 5 พ.ค. ที่ไปรับศพพ่อมาทำพิธี ทำให้ผมรู้สึกสงสัย เพราะปกติพ่อเป็นคนแข็งแรง แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า พ่อเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ทำให้ผมคาใจว่าการที่คุณพ่อเสียชีวิต เป็นเพราะการฉีดวัคซีน หรือเป็นเพราะโรคประจำตัวกันแน่ เพราะคุณพ่อไม่เคยบ่นเรื่องแน่นหน้าอกเลย จนหลังจากฉีดวัคซีนไปเมื่อวันที่ 29 เม.ย. แกก็เริ่มบ่นกับคุณปู่ว่ามีอาการแน่นหน้าอก”

ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ พูดถึงการพิสูจน์การเสียชีวิตว่า วิธีหนึ่งของการสืบสวนการตายก็คือ การชันสูตร ตามปกติแล้วกฎหมายไม่ได้บังคับว่าจะต้องชันสูตรศพ ตามปกติแล้วจะทำก็ต่อเมื่อไม่สามารถสืบหาการตายได้อย่างชัดเจน หรือคุณหมอต้องการทราบเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งในกรณีนี้ผู้ตายเสียชีวิตวันที่ 3 พ.ค. และวันที่ 5 พ.ค. ญาติถึงรับทราบ วันที่ 6 พ.ค. ถึงนำไปโรงพยาบาลรามาธิบดี จากระยะเวลากระบวนการพิสูจน์ยังพอทราบอะไรได้บ้าง แต่ด้วยเหตุว่าศพไปอยู่ที่วัด 1 วัน ต้องดูว่าสภาพศพจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไหม ถ้าเป็นการตายด้วยโรคหัวใจ การผ่าศพชันสูตรสามารถรู้ได้ทันทีเลย เพราะเมื่อผ่าออกมาจะเห็นว่าลักษณะของเส้นเลือด หรือกล้ามเนื้อหัวใจมีความผิดปกติ

Advertisement

“แต่สำหรับเรื่องเสียชีวิตจากวัคซีนหรือไม่ ยังวินิจฉัยชัดเจนไม่ได้ เพราะวัคซีนโควิด-19 นี้เป็นเรื่องใหม่ กลุ่มแรกเกิดจากการอาการแพ้อย่างรุนแรง จะสามารถเสียชีวิตได้ภายในระยะเวลารวดเร็ว กลุ่มที่ 2 คือ เมื่อฉีดไปแล้วเกิดการตกตะกอนในเส้นเลือด และกลุ่มที่สามเป็นการใช้เชื้อตายฉีดเข้าไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่คุณพ่อฉีดเข้าไป ซึ่งเป็นวัคซีนที่ถือว่าปลอดภัยที่สุด แต่ก็มีผลข้างเคียง มันต้องผ่าทั้งตัวเพื่อรู้ว่าอะไรเป็นยังไง ต้องดูให้ละเอียดทุกส่วนเพื่อไม่ให้พลาด แต่ถ้าคร่าวๆ จะดูเรื่องหัวใจได้ ซึ่งกระบวนการผ่าไม่ต่ำกว่า 2 อาทิตย์ แต่ก็อยู่ที่คิวว่าคุณหมอมีคิวอื่นไหม ก็ต้องตามคิว”

“สำหรับคำว่าวินิจฉัยไม่ได้ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้ช่วยใคร เพราะยาตัวนึงมันทำให้เกิดอาการหลายๆ อย่าง อาจทำให้เกิดตับอักเสบ หรืออาการอื่นๆ แต่โรคตับอักเสบมีสาเหตุการเกิดได้จากหลายอย่าง ดังนั้นจึงไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน มันต้องพิสูจน์ และวัคซีนตัวนี้มันใหม่มาก มันยังไม่ค่อยมีรีพอร์ต ซึ่งมันเป็นข้อจำกัด สิ่งแรกที่อยากให้ทำก็คือ ให้ลูกชายไปพบคุณหมอที่ชันสูตร ว่าคุณพ่อป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบหรือไม่ เรื่องนี้สามารถทำได้ ข้อจำกัดในการไปถึงข้อสรุป อาจจะทำให้เกิดความไม่ครบถ้วนได้ เช่น เราไม่สามารถกลับไปพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า ตัวยาที่ได้รับมามันเกิดความผิดปกติตรงไหนหรือไม่ มันเป็นข้อจำกัด”

“ไวรัสโควิดเป็นโรคระบาดของโลก มันไม่มียารักษา และมันสามารถกลายพันธุ์ได้ ทำให้เกิดการเร่งผลิตวัคซีนขึ้น การฉีดวัคซีนนี้ทำขึ้นเพื่อป้องกันว่า หากติดเชื้อจะไม่ให้อาการมีความรุนแรง เราต้องประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเอง แต่ควรจะต้องฉีด ก่อนฉีดก็ต้องแจ้งคุณหมอว่าเรามีโรคประจำตัว หรือมีอาการอะไรหรือไม่ หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตตัวเอง หรือคอยบอกอาการคนรอบข้างเสมอ อีกสิ่งหนึ่งคือต้องกลับมาดูที่ระบบการดูแลสุขภาพของประชาชน ต้องดูว่าประชาชนได้รับการตรวจสุขภาพที่เหมาะสมไหม เพราะบางคนไม่รู้ว่าตัวเองมีโรคประจำตัวแล้วไปฉีด เช่น ถ้าเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว ต้องมาดูว่าวัคซีนตัวนี้มันไปกระตุ้นให้เกิดการเสียชีวิต หรืออาการหนักขึ้นหรือไม่ เรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขน่าจะต้องรับไปพิจารณา”

ฝั่ง ทนายนิติธร แก้วโต หรือทนายเจมส์ ทนายความชื่อดัง แนะว่า รัฐบาลควรจะทำให้เป็นประจักษ์ว่าสาเหตุการตายของเขาเป็นอย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะวัคซีน ก็จะได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ หรือหากเกิดจากวัคซีนจริง เกิดจากความประมาทของใคร ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าตายจากวัคซีนเอง และไม่ได้เกิดจากคนไข้ที่ปกปิดข้อมูลเรื่องการแพ้ยาหรือโรคประจำตัว ซึ่งหากมันเกิดความเสียหายจากวัคซีนจริงๆ มีพรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับรองอยู่ ไม่ใช่แค่เสียชีวิต แต่รวมไปถึงอาการอื่นๆ ทั้งอัมพฤกษ์ หรืออัมพาต ก็มีความช่วยเหลือรองรับอยู่ แต่ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจน การเรียกร้องเงินเยียวยานี้ 4 แสนบาทอาจจะเป็นอัตราสูงสุด แต่ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีผลกระทบอื่นที่เป็นมูลค่ามากกว่านั้นก็สามารถนำมาพิจารณาเพิ่มเติมได้อีก ซึ่งเป็นหน้าที่ของญาติผู้เสียชีวิตที่จะต้องนำมาชี้แจงเพื่อพิจารณา

ซึ่งการสรุปสาเหตุการตาย ต้องมาจากการวินิจฉัยของแพทย์เท่านั้น จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตอบอย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นจากอะไร และถ้าเกิดในกรณีที่ไม่สามารถวินิจฉัยชี้ขาดได้ แต่ความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นคณะกรรมการก็ควรจะวินิจฉัยให้เป็นธรรม หมอก็ไม่ต่างจากนักกฎหมาย สามารถมีความเห็นแย้งกันได้อยู่แล้ว อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ว่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร โดยยึดตามหลักฐานและผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นหลัก และหากญาติไม่มีเงินในการเดินเรื่อง ก็จะมีหน่วยงานที่เข้ามาดูแลโดยตรงคือสภาทนายความ ซึ่งเขาจะส่งคนเข้ามาช่วยดำเนินคดี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นการบริการของรัฐอย่างหนึ่ง ส่วนประเด็นที่ว่าตอนนี้กล้าฉีดวัคซีนไหม? ทนายเจมส์ บอกว่า “ส่วนตัวแล้วผมไม่กล้าฉีด ถ้าผมจะฉีดควรมีโอกาสให้ผมได้เลือกว่าจะฉีดยี่ห้ออะไร ผมจะเอาอะไรเข้าร่างกายผมสักอย่าง ให้ผมมีสิทธิเลือกได้ไหม”

ทั้งนี้ นายสถาพร ทิ้งท้ายว่า ยังคงเชื่อเหมือนเดิมว่าวัคซีนมีส่วนที่ทำให้คุณพ่อเสียชีวิต เพราะคุณหมอที่ชันสูตรเองก็ยังไม่ได้หลักฐานอย่างแน่ชัด และถ้ารู้ก่อนว่าพ่อต้องฉีด คงไม่ให้เขาฉีด เพราะมันยังไม่มีตัวเลือกที่หลากหลาย และมันมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น ตัวคุณพ่อเองขับรถเอกซเรย์ มีการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่่ำเสมอ มีการตรวจสอบด้วยตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเอกซเรย์ตัวเอง, วัดความดันตัวเอง หรือนำเลือดของตัวเองมาตรวจสอบอยู่แล้ว ไม่ได้มีอาการของโรคประจำตัว ซึ่งถ้าผลออกมายังเป็นแบบเดิม ผมก็คงไม่ดำเนินการอะไรต่อ เพราะผมไม่ได้มีเงินทองอะไรมากมาย ผมแค่อยากรู้ว่าถ้าพ่อของผมเสียชีวิตไปเพราะวัคซีน จะมีหน่วยงานหรือความช่วยเหลือจากรัฐเข้ามาดูแลบ้างไหม

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image