นายพชร แกล้วกล้า ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังทำหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ ให้ตรวจสอบการนำเข้าของเล่นที่มีลักษณะคล้ายเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า เมื่อผู้บริโภคซื้อไปกลับพบว่าหมดอายุตั้งแต่ก่อนนำเข้าแล้วว่า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ทำหนังสือตอบกลับมายังมูลนิธิว่า จากการตรวจสอบบริษัท โซลิด เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด บริษัทที่นำเข้าสินค้าดังกล่าว พบว่าบริษัทยังไม่ได้รับอนุญาตจาก สมอ.ให้นำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงได้ยึดและอายัดผลิตภัณฑ์ไว้ และอยู่ระหว่างการดำเนินงานตามกฎหมาย ส่วนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้แจ้งผลการดำเนินการร้องเรียนว่า อย.ได้ตรวจสอบสถานที่นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเล่นดังกล่าวแล้ว พบการกระทำผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้นำเข้าเพื่อขาย/ผู้ขายเครื่องสำอางที่ไม่จดแจ้ง หมดอายุ และแสดงฉลากไม่ครบถ้วน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558
นายพชรกล่าวว่า ทางมูลนิธิส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ด้วย แต่ทาง สคบ.ไม่เคยมีหนังสือตอบรับหรือชี้แจงกลับมาแต่อย่างใด ซึ่งหากหน่วยงานต่างๆ ที่มูลนิธิทำหนังสือให้ชี้แจงหรือตรวจสอบไป หากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ ก็ควรชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องอย่างไร เพราะการไม่ตอบรับใดๆ อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
นายพชรกล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559 บริษัทโซลิดฯ ส่งหนังสือใบอนุญาตมายังมูลนิธิ โดยแจ้งว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะนำเข้าสินค้าใดๆ ที่ไม่ตรงตามใบอนุญาต โดยบริษัทดำเนินการขอใบอนุญาตกับ สมอ.มาตลอด และมีใบอนุญาตนำเข้าผลิตภัณฑ์หลายฉบับ พร้อมกับส่งตัวอย่างใบอนุญาตนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเข้ามาเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักร แต่เอกสารที่บริษัทส่งมาไม่มีใบอนุญาตของผลิตภัณฑ์ตัวที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ปกติแล้วการนำเข้าเครื่องสำอางจะต้องจดแจ้งกับ อย.ก่อน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของสินค้าใดก็ตาม รวมไปถึงของเล่นเด็ก ถ้าหากเป็นสินค้าที่มีวัตถุประสงค์ผลิตขึ้นมาเพื่อทำให้เป็นเรื่องของความสะอาดและความสวยงาม ก็ต้องจดแจ้งเป็นเครื่องสำอางก่อน ถึงจะนำเข้ามาได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวหากตรวจสอบพบที่จุดจำหน่ายก็ถือว่าผู้จำหน่ายมีความผิดฐานจำหน่ายเครื่องสำอางที่ไม่ได้รับการจดแจ้งและเครื่องสำอางหมดอายุ แต่หากสามารถสืบสาวไปจนถึงผู้นำเข้าได้ ก็จะเอาผิดกับผู้นำเข้าด้วยในข้อหานำเข้าเครื่องสำอางโดยไม่จดแจ้งและหมดอายุ ซึ่งทั้ง 2 กรณีมีโทษทั้งจำและปรับ
