| ที่มา | ข่าวหน้า 1 มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
สืบเนื่องจากกรณีการไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อสร้างสวนสาธารณะโดย กทม. ตามแผนแม่บทเมื่อ 50 ปีก่อน ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อมานาน 24 ปี โดยมีความพยายามในการพูดคุยเพื่อหาทางออกหลายครั้ง ล่าสุด กทม.ยืนยันรื้อชุมชนในวันที่ 3 กันยายน โดยได้ดำเนินการติดตั้งป้ายประกาศรื้อถอนเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทั่งทางชุมชนได้จัดกิจกรรมการเยี่ยมเยือนชุมชนเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 27-28 ส.ค. พร้อมระบุว่าอาจเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากกทม.ยืนยันจะไล่รื้อ โดยเริ่มจากครัวเรือนที่สมัครใจย้ายออก 13 หลังคาเรือนนั้น
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด มีการนำป้ายมาติดตั้งเพิ่มเติมตั้งแต่วานนี้ โดยเป็นแผนผังชุมชนป้อมมหากาฬ แสดงถึงตัวบ้านและพื้นที่ส่วนต่างๆ มีข้อความระบุว่า “ผังแสดงอาคารที่เจ้าของโอนกรรมสิทธิ์ให้กรุงเทพมหานครแล้ว” ซึ่งมีการใช้สีน้ำเงินสำหรับอาคารกลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ตาม นางสาวอินทิรา วิทยสมบูรณ์ นักกิจกรรมทางสังคมซึ่งเคลื่อนไหวร่วมกับชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวว่า แผนผังดังกล่าวมีการลงสีน้ำเงินบริเวณบ้านเกือบทั้งชุมชน ไม่ใช่แค่13 หลังคาเรือนที่สมัครใจย้ายออกเท่านั้น แต่ยังมีบ้านของผู้ที่อยู่ระหว่างการต่อสู้ ไมได้สมัครใจย้ายออกแต่อย่างใด อาทิ บ้านของนายธวัชชัย วรมหาคุณ ประธานชุมชนป้อมมหากาฬ , นายพรเทพ บูรณะบุรีเดช รองประธานชุมชนฯ และบ้านหลังอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีเรือนไม้โบราณ คือบ้านเลขที่ 99 ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ตั้งอยู่บริเวณลานกลางชุมชน ต่อมา ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ชุมชนไปโดยปริยาย
ทั้งนี้ ชุมชนป้อมมหากาฬ ได้ประกาศปิดชุมชนชั่วคราวโดยมีการเผยแพร่ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กของชุมชน มีเนื้อหาโดยสรุปว่า ในระหว่างเสาร์-อาทิตย์ที่ 3-4 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นกำหนดเวลาการไล่รื้อ ทางชุมชนจะหยุดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมเยียน หรือแม้แต่การจำหน่ายอาหาร เนื่องจากบางส่วนอาจถูกตัดน้ำ-ไฟ นอกจากนี้ ยังอยู่ในช่วงเวลาทำใจกับสถานการณ์ดังกล่าว และยังยืนยันว่าจะขอยืนหยัดต่อสู้อย่างอหิงสาต่อไป
รศ. ชาตรี ประกิตนนทการ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในแผนผัง และป้ายภาพจำลองสวนสาธารณะที่นำมาติดไว้หน้าชุมชนก่อนหน้านี้ ล้วนแสดงให้เห็นว่า ไม่สามารถเชื่อถือในคำพูดของกทม.ได้เลย เนื่องจากที่ผ่านมา กทม.สื่อสารมาตลอดในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาว่า จะเก็บบ้านไม้โบราณไว้ แต่ภาพจำลองสวนสาธารณะกลับไม่มีบ้านเหล่านั้น นอกจากนี้ แผนผังที่นำมาติดตั้งล่าสุดก็เป็นการโกหกประชาชน เพราะครัวเรือนที่สมัครใจย้ายออก มีเพียง 13 หลังเท่านั้น
“แผนผังที่เอามาติดล่าสุดคือการโหกประชาชน เพราะบ้านที่สมัครใจย้ายออกมีแค่ 13 หลัง แต่ข้อมูลที่นำมาแสดงคือทั้งชุมชน ซึ่งผิดข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กทม.เองก็พูดมาตลอดว่าจะเก็บบ้านไม้โบราณไว้ แต่ป้ายที่มีภาพจำลองสวนสาธารณะ กลับเป็นสวนทั้งหมด 100 % นี่ก็คืออีกหนึ่งการโกหกของกทม. ดังนั้น คำพูดของหน่วยงานนี้จึงเอาแน่เอานอนไม่ได้ ไว้ใจอะไรไม่ได้เลย” รศ.ชาตรีกล่าว และว่าในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปยังชุมชนป้อมมหากาฬเพื่อสังเกตการณ์การไล่รื้อด้วยอย่างแน่นอน
