ศาลอนุญาตฝากขัง”เด่นภูมิ”หลังตร.ยื่นส่ง2สำนวนก่อเหตุโชกโชนอ้างเป็นโมเดลลิ่ง–สาวสอง ลวงขืนใจพริตตี้–บังคับเสพยา
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ศาลอาญาธนบุรี ถ.เอกชัย ร.ต.ท. ขุมทรัพย์แสงสว่าง พนักงานสอบสวนสน.บางขุนเทียน นำตัว นายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ผู้ต้องหา อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง ลวงสาวพริตตี้ข่มขืน มาฝากขังที่ศาล 2 สำนวน
โดยสำนวน1 พฤติการณ์ในใบคำร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 64 เวลาประมาณ 21.30 น. นายเด่นภูมิ ได้ว่าจ้าง น.ส.สุธาสินี (สงวนนามสกุล)มาทำหน้าที่เอ็นเตอร์เทนที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ชื่อ เมโทรพาร์คย่านสาทรเมื่อน.ส.สุธาสินี มาถึง นายเด่นภูมิได้พาขึ้นไปห้องที่เกิดเหตุและได้บังคับให้เสพยาเสพติดและข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.สุธาสินี ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2564 น.ส.สุธาสินีได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.บางขุนเทียนให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญาธนบุรีซึ่งศาลอาญาธนบุรีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 192/2564 ลงวันที่ 4 พ.ค. 2564 ต่อมาวันที่ 11 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า ข่มขืนกระทำชำเราอื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา276,309 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 13
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 5 ปากและรอผลการตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหา และผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหายจากแพทย์ จึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 -24 พค.64
ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านหากผู้ต้องหาจะประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงหากปล่อยตัวไปเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุร้ายแรงประการอื่น
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ เป็นหมาย ฝ231/2564
ผู้สื่อรายงานว่า อีกสำนวน พนักงานสอบสวนสน.บางขุนเทียน ได้ยื่นคำร้องขอฝากขัง นายเด่นภูมิ ผู้ต้องหา กระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีดและขู่เข็ญด้วยประการใดใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดคืนได้ ,หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
พฤติการณ์ในคำร้องสรุปได้ว่า ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ เมื่อวันที่8 ก.พ. 2564 เวลา 15.00 น. นายเด่นภูมิผู้ต้องหา ได้ส่งข้อความในกลุ่มไลน์หาเด็กเอนเตอร์เทน ว่าหาเด็กเอ็นฯ งาน 4-5 ชั่วโมง จากนั้นผู้เสียหายได้ส่งข้อความไปใน ไลน์ส่วนตัวของผู้ต้องหา ซึ่งใช้โปรไฟล์เป็นรูปผู้หญิงบอกว่าสนใจงานค่ะ หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้โทรหาผู้เสียหาย โดยผู้เสียระบุว่าฟังเสียงเหมือนสาวประเภทสอง บอกว่าให้ผู้เสียหายไปเมโทรพาร์ค สาทร ผู้เสียหายตกลงรับงาน ระหว่าง ผู้เสียหายเดินทางไปที่เมโทรพาร์คก็มีเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 097169**** เป็นเสียงผู้ชายอ้างว่าเป็นลูกค้าบอกให้ผู้เสียหายรีบมาและให้ผู้เสียหายแวะซื้อปรอทวัดไข้ที่ร้านขายยา และซื้อบุหรี่ที่ร้านสะดวกซื้อ ก่อนเข้าคอนโดมา เมื่อเวลา16.00 น. ผู้ต้องหานั่งรอผู้เสียหายอยู่ บริเวณหน้าตึก โดยผู้ต้องหาสวมใส่ยืดสีเทา กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ สวมหน้ากากอนามัยจากนั้นก็พาผู้เสียหายขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นเจ็ด แต่ผู้เสียหายจำเลขห้องไม่ได้เมื่อเข้าไปในห้อง ผู้เสียหายได้เห็นอุปกรณ์เสพยาเสพติดวางอยู่ที่โต๊ะและผู้ต้องหาได้ถามผู้เสียหายว่าจะอัพยาหรือไม่ผู้เสียหายตอบว่าไม่และอ้างว่ามีลูกยังเล็กอยู่
จากนั้นผู้ต้องหาได้พยายามเสนอให้เสพยาอีก แต่ผู้เสียหายยืนยันไม่เสพ จนเวลา 17.30น. ผู้ต้องหาได้ถามผู้เสียหายว่ารู้จักคนที่ชื่อเด่นภูมิที่มีข่าวหลอกเด็กในกลุ่มไหม ผู้เสียหายตอบว่าเคยได้ยิน แต่ไม่เคยเห็นหน้า รู้แต่ว่าเคยหลอกเด็กมาขังขู่ เอาเงินจากนั้นผู้ต้องหาก็แสดงตัวว่าตนเองเป็นเด่นภูมิและเดินไปหยิบมีดทำครัวปลายแหลมยาวประมาณหนึ่ง1 คืบ มาจ่อหน้าผู้เสียหาย และข่มขู่ให้ทำตามถ้าไม่อยากตาย ก่อนสั่งให้ผู้ถอดเสื้อผ้าและขึ้นไปบนเตียง โดยนายเด่นภูมิใช้มีดจี้ผู้เสียหายตลอด ผู้เสียหายกลัวจึงทำตามที่สั่งจากนั้นผู้ต้องหาก็ถอดเสื้อแล้วข่มขืนผู้เสียหาย จากนั้นก็ให้ผู้เสียหายหลอกผู้หญิงคนอื่นมาที่คอนโดโดยผู้ต้องหานั่งพูดขู่อยู่ข้างๆ ตอนนั้นผู้เสียหายจำไม่ได้ว่าพูดอะไรออกไปเนื่องจากตกใจและกลัวมาก แต่รู้ว่ามีผู้หญิงคนอื่นมาที่คอนโดเนื่องจากผู้ต้องหาบอกว่าผู้หญิงมาถึงแล้วและจะลงไปรับ พร้อมสั่งให้ผู้เสียหายออกไปอยู่ระเบียงหลังห้องและผู้ต้องหาก็ล็อกประตูห้องไว้และลงไปข้างล่างรับผู้หญิงที่หลอกมา ผู้เสียหายไม่กล้าร้องให้คนช่วยเพราะไม่แน่ใจว่าผู้ต้องหาออกไปจากห้องจริงหรือไม่ และหากไม่มีใครมาช่วยทันกลัวจะถูกผู้ต้องหาทำร้าย แต่เมื่อผู้ต้องหามาเปิดประตูห้องให้ผู้เสียหายก็บอกว่าผู้หญิงที่มาจำหน้านายเด่นภูมิได้ ว่าคือคนที่กลุ่มไลน์เคยโพสต์เตือนเลยไม่ขึ้นห้องมาด้วย
ต่อมานายเด่นภูมิได้ชำเราผู้เสียหายอีกครั้ง ผู้เสียหายได้เสนอว่าจะขอยืมเงินเพื่อนมาให้จำนวน 1,000 บาทขอให้ปล่อยตัวเองกลับบ้านนายเด่นภูมิตกลง จากนั้นผู้เสียหายได้โอนเงินให้ 700 บาทไปยังบัญชีธนาคารระบุชื่อนายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ จากนั้นผู้ต้องหาได้มาส่งผู้เสียหายที่หน้าคอนโดเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 9 ก.พ.64
เหตุเกิดที่ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 276 วรรคสาม ,310 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 27 ) พ.ศ.2562 มาตร 4
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โดยพนักงานสอบสวนยังต้องสอบพยานอีก6 ปาก และรอผลการตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหา จึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 13 – 24 พค.64
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงหากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุร้ายประการอื่น
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมาเมื่อครบกำหนดเวลาราชการ ปรากฎไม่มีบุคคลใดมายื่นประกันผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาไปควบคุมไว้ในเรือนจำระหว่างฝากขังต่อไป
