เครือข่ายแม่น้ำค้านใช้ ม.44 ผลักดันสร้างเขื่อนแม่วงก์

วันที่ 3 สิงหาคม เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำภาคเหนือ (คปน.) และเครือข่ายองค์กรภาคี ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง หยุดใช้ ม.44 ผลักดันสร้างเขื่อนแม่วงก์ ใจความว่า ตามที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่ดูปริมาณน้ำเขื่อนภูมิพล จ.ตาก โดยมีแนวคิดจะใช้มาตรา 44 ในการผลักดันสร้างเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ทางเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำภาคเหนือ (คปน.) เห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะใช้มาตราการดังกล่าว เนื่องจากเรื่องโครงการเขื่อนแม่วงก์ไม่ใช่เรื่องความผิดอันใด แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เหตุและผลในการดำเนินการ อีกทั้งการเร่งรัดก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 โดยมิได้พิจารณาผลกระทบและทางเลือกจัดการน้ำอย่างรอบด้าน มีแต่จะทำให้เกิดความมืดบอดในการจัดการน้ำของประเทศ เราเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำภาคเหนือ (คปน.) และเครือข่ายองค์กรภาคี ขอคัดค้านการใช้มาตรา 44 ผลักดัน เร่งรัด การก่อสร้างโครงการเขื่อนแม่วงก์ ด้วยเหตุผลดังนี้

“1.ขัดต่อนโยบายรัฐบาล ในการรักษาผืนป่าประเทศไทยที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพราะการสร้างเขื่อนแม่วงก์จะทำลายผืนป่าสมบูรณ์และป่าต้นน้ำในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และผืนป่าตะวันตก
2.ขัดต่อข้อเสนอ 15 ข้อของมูลนิธิสืบฯ ที่ยื่นข้อเสนอทางออกการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ในลุ่มน้ำแม่วงก์ ที่ได้ยื่นต่อ รมต.เกษตรฯไปแล้ว 3.ขัดต่อเจตนารมณ์ของคุณสืบ นาคะเสถียร เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา มูลนิธิสืบฯได้จัดงานรำลึกการจากไปของคุณสืบ ที่ได้เสียสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องผืนป่าตะวันตก และเพื่อรักษาป่าของประเทศไทย ซึ่งพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าตะวันตก แต่หลังจากการจัดงานรำลึกเพียงวันเดียว รมต.กลับมีนโยบายทำลายป่าโดยจะใช้ ม.44 ผลักดันสร้างเขื่อนแม่วงก์ จึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง 4.กรณีน้ำในเขื่อนคลองโพธิ์ และเขื่อนทับเสลา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง ไม่มีน้ำสำรอง จึงสะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่อับฝน (ฝนตกน้อย) การสร้างเขื่อนไม่ใช่คำตอบของการจัดการน้ำ จึงไม่สมควรแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ด้วยการสร้างเขื่อนแม่วงก์อีกต่อไป ให้มีการทบทวนและใช้ทางเลือกอื่นๆ ตามที่มูลนิสืบฯได้ให้ข้อเสนอไปในการจัดการน้ำ 5.เราหวังให้พายุพัดผ่าน แต่สุดท้ายฝนก็ไม่ตกเหนือเขื่อน จึงมีป่าต้นน้ำแบบเดิม ซึ่งผิดพลาดแบบที่เห็นอยู่ในปัจุบัน 6.แนวคิดในการเร่งสำรองน้ำด้วยการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ของ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งวิกฤตเรื่องน้ำที่ผ่านมาเป็นปัญหาเรื่องการบริหารจัดการของเขื่อนขนาดใหญ่ที่ผิดพลาด ซึ่งแก้ไขได้ และไม่จำเป็นต้องสร้างเขื่อนแม่วงก์”

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า หากมีการนำ ม.44 มาใช้ผลักดันการสร้างเขื่อนแม่วงก์ จะนำไปสู่การใช้แนวทางเดียวกันกับโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีกรณีพิพาทระหว่างรัฐและชาวบ้านทั่วประเทศ ซึ่งจะไม่ได้ใช้การตัดสินใจที่อยู่บนเหตุและผลทางวิชาการ และด้วยเหตุผลเบื้องต้นที่กล่าวมา เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำภาคเหนือ ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ได้เฝ้าติดตามแนวนโยบายการจัดการน้ำมาอย่างต่อเนื่องเห็นว่าไม่ควรใช้ ม.44 ในการผลักดันโครงการเขื่อนแม่วงก์ รวมถึงโครงการอื่นๆ ด้านสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ และท้ายสุดจะทำให้ประเทศไทยสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะกรณีการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เสี่ยงต่อความสูญเสียผืนป่า สัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพด้านอื่นๆ ตามมา ซึ่งสวนทางและขัดต่อนโยบายการรักษาผืนป่าของรัฐบาลยุคปัจจุบันอย่างร้ายแรง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image