กฎเข้ม! ร้านอาหาร เว้นระยะ ห้ามพูดเสียง-นั่งเผชิญหน้ากัน บุฟเฟต์งดตักอาหารเอง

กฎเข้ม! ร้านอาหาร เว้นระยะ ห้ามพูดเสียง-นั่งเผชิญหน้ากัน บุฟเฟต์งดตักอาหารเอง

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณี ศบค.ผ่อนคลายให้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) สามารถนั่งกินในร้านอาหารได้จำกัดไม่เกิน 25% ถึงเวลา 21.00 น. และซื้อกลับบ้านได้ถึงเวลา 23.00 น. มีการเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ว่า ขอให้ทุกร้านคุมเข้มการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ใช้เวลานั่งกินภายในร้านไม่เกิน 2 ชั่วโมง จัดแยกอุปกรณ์ เช่น จาน ชาม ช้อน เครื่องปรุงรส เป็นเฉพาะบุคคล สำหรับร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์งดให้ลูกค้าเดินตักอาหารเอง แต่ให้มีพนักงานบริการแทน โดยทุกร้านควรมีมาตรการลดการสัมผัส เช่น ใช้ระบบจองคิวเมื่อสั่งกลับบ้าน ระบบการชำระเงินออนไลน์

ให้ลูกค้าเปิดหน้ากากได้เฉพาะเวลานั่งกินข้าวและลดการพูดคุยเสียงดัง งดการนั่งเผชิญหน้ากัน ห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน กำหนดจุดคัดกรองผู้ใช้บริการ จัดจุดล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสและห้องน้ำบ่อยๆ กำจัดมูลฝอยทุกวัน

“หากพบพนักงานหรือผู้รับบริการติดเชื้อโควิด-19 ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคในพื้นที่ทันที และหยุดประกอบกิจการชั่วคราวเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการควบคุมป้องกันโรคติดต่อในระดับจังหวัดกำหนด” นพ.สุวรรณชัยกล่าว

นพ.สุวรรณชัยกล่าวอีกว่า สำหรับการกำกับ ติดตาม และประเมินมาตรการร้านอาหารเป็นหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากร้านอาหารมีการติดเชื้อสามารถสั่งหยุดเพื่อทำความสะอาด 1-3 วัน นอกจากนี้ ให้ร้านอาหารประเมินตนเองผ่าน Thai stop COVID Plus ผู้ประกอบการและพนักงานประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มให้มีการประเมินใหม่ แสดงใบประกาศให้เห็นชัดเจน เพื่อให้ผู้รับบริการประเมินผ่าน QR code ได้ ขณะที่ผู้รับบริการให้ลงทะเบียนผ่านไทยชนะทุกครั้ง

Advertisement

นพ.สุวรรณชัยกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ จากข้อมูลThai stop COVID Plus มีร้านอาหารลงทะเบียนและประเมินตนเองแล้ว จำนวน 15,193 แห่ง ผ่านการประเมิน 12,211 แห่ง ขอความร่วมมือร้านอาหารที่ยังไม่ประเมินหรือประเมินไม่ผ่าน ดำเนินการในระบบและปฏิบัติตามคำแนะนำตามมาตรการร้านอาหารต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image