เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 กันยายน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. และนายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัด กทม. ลงพื้นที่ตรวจติดตามการรื้อย้ายบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬ เฉพาะบ้านหลังที่เจ้าของยินยอมและขอให้ กทม.ช่วยรื้อย้าย ซึ่งเป็นไปตามแผนต่อจากเมื่อวันที่ 3 กันยายน โดยในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่เข้าเก็บขยะและเศษวัสดุจากการรื้อย้าย และในช่วงบ่าย ดำเนินการรื้อบ้านที่เหลืออีก 4 หลัง ตามแผนเดิมที่มีอยู่จำนวน 13 หลัง รวมถึงจะรื้อย้ายบ้านร้างอีก 3 หลัง ที่ชาวชุมชนขอให้ กทม.ช่วยรื้อย้ายเพิ่มเติม รวมเป็น 16 หลัง โดย 1 ในจำนวนนี้มีบ้านไม้สักทองที่จะอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ โดยเจ้าของบ้านจะขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านหลังดังกล่าวเองก่อนวันที่ 10 กันยายนนี้ด้วย
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า กทม.ดำเนินการรื้อบ้านในชุมชนป้อมฯ ตามที่ชาวชุมชนยินยอม และขอให้ กทม.ช่วยรื้อย้าย ซึ่งตามแผนมี 13 หลัง ภายหลังมีชาวชุมชนฯขอให้ กทม.รื้อย้ายบ้านซึ่งเป็นบ้านร้างอีก 3 หลัง รวมเป็น 16 หลัง โดยเมื่อวันที่ 3 กันยายนได้ดำเนินการรื้อออกไปแล้ว 9 หลัง แต่บางหลังยังขนของออกไม่หมด ดังนั้นวันนี้ กทม.จะดำเนินการรื้อบ้านตามแผนเดิมต่ออีก 4 หลัง รวมถึงรื้อบ้านร้างเพิ่มเติมอีก 3 หลัง และจะขนของรวมถึงเศษวัสดุที่เหลือออกทั้งหมดภายในวันเดียวกันนี้ ในส่วนของตึกธัญยประกาศ ที่ตั้งอยู่ในป้อมฯ ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีผู้เข้ามาอยู่อาศัย โดยเบื้องต้นได้ประสานให้ประธานชุมชนฯแจ้งผู้อาศัยในอาคารดังกล่าวดำเนินการขนของออกภายในช่วงบ่าย ต่อจากนั้นจะให้สำนักผังเมือง กทม.เข้าปรับปรุงให้สวยงาม อนุรักษ์ไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวอีกว่า สำหรับวัสดุจากการรื้อย้าย กทม.จะนำไปเก็บไว้ที่ศูนย์ก่อสร้างและบูรณะ 6 (รัชโยธิน) ส่วนขยะจะนำไปทิ้งทำลายอย่างถูกวิธี และ กทม.ได้อำนวยความสะดวกนำส่งสิ่งของให้กับเจ้าของบ้านที่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ โดยได้นำส่งไปยัง จ.นครราชสีมา 1 ราย จ.สระบุรี 1 ราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 1 ราย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 1 ราย และนำส่งที่หมู่บ้านเสนาวิลล่า รามอินทรา 109 กรุงเทพฯ 1 ราย
“ปัญหาใหญ่ของการรื้อย้ายคือช่องทางการขนย้าย เนื่องจากมีเส้นทางเล็ก ใช้ได้เพียงกำลังคนเข้าไปขนออกมา เบื้องต้น ได้สั่งการให้ฝ่ายรักษาความสะอาด ฝ่ายเทศกิจ ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระนคร และเจ้าหน้าที่สำนักการโยธา กทม. ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ ทั้งนี้ กทม.ยืนยันจะดำเนินการรื้อย้ายตามแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน หลังจากนี้ส่วนที่เหลือหากมีผู้ยินยอมให้รื้อ กทม.จึงจะเข้ารื้อ แต่หากไม่ยินยอมจะไม่มีการเข้ารื้อเด็ดขาด ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เสนอให้มีการหารือแนวทางร่วมกันโดยตั้งเป็นคณะกรรมการร่วม ซึ่งจะประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า แต่ กทม.ไม่สามารถทำสัญญาต่างๆ กับชุมชนป้อมฯได้ เนื่องจากการกระทำของชุมชนฯเป็นการละเมิดคำสั่งของศาล ละเมิดคำสั่งของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งถ้าชุมชนป้อมฯจะไปร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายให้เป็นไปตามที่ต้องการ กทม.ก็น้อมรับและปฏิบัติตาม อยากให้ประชาชนทุกคนเข้าใจว่า กทม.เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ก็ต้องทำตามกฎหมาย ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็จะเป็นการขัดต่อมติของ ป.ป.ช.ด้วย” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว