ศบค.เผย วันเดียวลอบเข้าเมือง 191 คน ชี้ กทม.ยังน่าห่วง คลัสเตอร์เฝ้าระวัง เพิ่มเป็น 24 เขต

‘ศบค.’ รายงาน ติดเชื้อใหม่ 3,052 ราย ยอด กทม.-ปริมณฑล สูงเกือบ 2 เท่าของ จว.ที่เหลือ ‘นพ.ทวีศิลป์’ รับตลาดบางกะปิน่าเป็นห่วง ด้าน ตชด.เร่งซีลชายแดน หลังลักลอบข้ามแดนยอดยังพุ่ง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 3,052 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,406 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 41 ราย จากเรือนจำ 605 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 97,255 ราย ยอดรวมสะสมตั้งแต่ปีที่แล้วถึงปัจจุบันคือ 126,118 ราย หายป่วยแล้ว 2,900 ราย รวมหายป่วยสะสม 54,978 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติม 24 ราย เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 คือ 759 ราย ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 17,734 ราย ในโรงพยาบาลสนาม 25,221 ราย รวมทั้งหมด 42,955 ราย ผู้ป่วยอาการหนักอยู่ที่ 1,216 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ที่ 409 ราย ฉีดเข็มแรกไปแล้ว 1,849,393 ราย ฉีดเข็มสอง 962,156 ราย ฉีดแล้วทั้งหมด 2,811,549 โดส

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต 24 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 13 ราย สมุทรปราการ 3 ราย เชียงใหม่ และราชบุรี จังหวัดละ 2 ราย โดยจังหวัดละ 1 ราย มีนนทบุรี สุราษฎร์ธานี ยโสธร และนครนายก ค่ากลางของอายุอยู่ที่ 64.5 ปี ต่ำสุดอยู่ที่ 31 ปี และสูงสุดอยู่ที่ 96 ปี และมีอัตราการครองเตียงสูงขึ้น คือใช้เตียงในโรงพยาบาลยาวนานมากขึ้น

ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศรวม 41 ราย ประกอบด้วย มาเลเซีย 1 ราย มัลดีฟส์ 2 ราย ฟิลิปปินส์ 1 รายซาอุดีอาระเบีย 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย และกัมพูชา 35 ราย ที่เข้ามาผ่านแดนถาวรอย่างถูกต้องทางกฎหมาย ที่ได้รับการดูแลในสถานกักกันของรัฐจังหวัดสระแก้ว

ปัจจุบันยังมีสถิติการลักลอบเข้าเมืองอยู่แม้ทางการจะเข้มงวด โดยภายใน 24 ชั่วโมง ได้รับรายงาน 191 คน เข้ามาจากเมียนมา 65 คน กัมพูชา 64 คน และลาว 19 คน จึงอยากจะขอให้ท่านเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ด้าน ศบค.ศปก.ได้รายงานว่าคนที่ข้ามแดนผ่านมาไม่ต้องเข้ามาที่ชั้นใน แต่จะมีสถานที่กักกันในรูปแบบเฉพาะองค์กร หรือ OQ ที่จัดการโดยกองบัญชาการตำรวจชายแดน ที่ได้เปิดใช้งานแล้ว 5 แห่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และตาก ซึ่งจะเปิดขึ้นอีกหลายแห่งในประเทศไทย

Advertisement

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วน 10 อันดับแรก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจำวันที่สูงสุดอยู่ที่กรุงเทพมหานคร 1,191 ราย เพชรบุรี 437 ราย นนทบุรี 99 ราย ตามมาด้วยสมุทรปราการ ชลบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร ยะลา ราชบุรี ส่วนอันดับที่ 10 มี 4 จังหวัดคือ ตาก สงขลา สุราษฎร์ธานี นครปฐม จังหวัดละ 20 ราย ภาพรวมจังหวัดที่เป็นศูนย์ มี 20 จังหวัด คือ นครสวรรค์ พิษณุโลก ลำพูน ลำปาง เพชรบูรณ์ ตราด สุโขทัย กาฬสินธุ์ พะเยา สิงห์บุรี เลย อุตรดิตถ์ แพร่ ชัยนาท หนองคาย พังงา แม่ฮ่องสอน อำนาจเจริญ หนองบัวลำภู และมุกดาหาร โดยในเรือนจำวันนี้พบ 605 ราย ซึ่งลดลงจากเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ทำให้ยอดรวมของเรือนจำไม่ถึง 15,153 ราย ส่วนนอกเรือนจำ 81,576 ราย โดยกรุงเทพฯและปริมณฑลมีจำนวนผู้ติดเชื้อวันนี้ 1,521 ราย มากกว่าจังหวัดอื่นๆ รวมกัน เกือบสองเท่าตัว หากช่วยกันควบคุมก็จะทำให้ภาพรวมของประเทศมีผู้ติดเชื้อลดลง

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า โดยทิศทางกราฟสถานการณ์ของกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มพุ่งทะยานขึ้น หมายความว่าเรายังอยู่ในภาวะที่ยังไม่น่าไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์เก่าหรือสายพันธุ์ใหม่ และการติดเชื้อที่แพร่กระจายเร็วขึ้น ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้อมูลนำเข้า ซึ่งต้องเรียนพี่น้องประชาชนทราบว่า ตอนนี้ต้องมีความตื่นตัว แต่ต้องไม่ตื่นตระหนก เพื่อเราจะได้ควบคุมการติดเชื้อได้ ขณะเดียวกันก็อยู่ในสารคัดหลังที่กระจายไปตามภาชนะต่างๆ ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันเราอยู่ในสังคมเดียวกัน ซึ่งสังคมของ กทม. มีความแออัด โดยกรมสอบสวนโรคได้ลงปูพรมตรวจสอบโรค และพบอัตราการติดเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 9.08%

จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมต่อประชากร 1,000 คน แยกตามที่อยู่ใน กทม. 50 เขต พบว่าคลัสตอร์สีส้มที่อยู่ระหว่างการดำเนินการควบคุมโรค ทิศทางแนวโน้มยังขึ้นเช่นเดียวกับจำนวนเขตที่แต่เดิมมี 16 เขต เพิ่มเป็น 24 เขต ดังนั้น เขตที่เหลืออยู่อีก 26 เขต ก็ขอให้ช่วยกันอีกไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด

Advertisement

ในการตรวจหาเชื้อตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม ตนอยากให้ไปเพ่งไปที่ตลาดบางกะปิ ซึ่งตรวจ 845 ราย ตรวจพบเชื้อ 137 ราย คิดเป็น 16.21% ตลาดบางกะปิเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องลงไปควบคุมและป้องกันโรคโดยเร่งด่วน ขอพี่น้องในประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้โปรดให้ความร่วมมือกับทางทีมงานแล้วต้องดูแลสุขภาพนามัยส่วนบุคคลและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา คลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง 28 แห่ง ซึ่งอยู่ใน กทม. แบ่งเป็นกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด 20 คลัสเตอร์ กลุ่มเฝ้าระวังมี 2 คลัสตอร์ และที่พบใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแคมป์ก่อสร้างเกือบทั้งหมด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการระบาดแรงงานในต่างด้าวจะมีการตรวจมากน้อยเพียงใด นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ประเทศไทยต้องได้รับการตรวจและดูแลเหมือนกันหมด โดยรัฐบาลได้ทำมาตั้งแต่การระบาดระลอกแรก ดังนั้นขอให้ทั้ง 3 ส่วนได้รับทราบคือ หนึ่ง พี่น้องประชาชนที่เป็นทั้งคนไทยและต่างด้าวซึ่งมีสิทธิและไม่มีสิทธิ ขอให้แสดงตัว หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือในพื้นที่เสี่ยง หากต้องการตรวจก็สามารถไปหาหน่วยงานสาธารณสุข สอง คือกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบกับคนงานที่นำเข้ามา ซึ่งภาครัฐก็จะดูแลให้ด้วย และสาม คือภาครัฐ ก็มีงบประมาณในการดูแลค่าใช้จ่ายในการตรวจแล็บเพื่อแยกคนป่วยออกมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image