“ป้อมมหากาฬ” แถลงสู้ต่อ เตรียมตั้งพหุภาคี 19 ฝ่าย จ่อยื่น “มล.ปนัดดา” เป็นประธาน หวังรัฐเป็นตัวกลาง

เมื่อวันที่  5 ก.ย. ที่ลานชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร กรุงเทพ ฯ ตัวแทนชุมชนป้อมมหากาฬ , นักวิชาการ และเครือข่ายชุมชนร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการไล่รื้อชุมชนระหว่างวันที่ 3-4 ก.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงแนวทางการดำเนินการต่อไป

นายธวัชชัย วรมหาคุณ ประธานชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวว่า ท่ามกลางยี่สิบสี่ปี หวังว่าอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง กระบวนของพี่น้องป้อม ถึงเวลาแสดงว่าเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ซึ่งสอดรับนโยบายรัฐบาลในด้านการท่องเที่ยว

นายพรเทพ บูรณะบุรีเดช รองประธานชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการไล่รื้อชุมชน  ซึ่งโดนบิดเบือนข่าวจากกทม.  เช่น การถูกหาว่าบุกรุกในอาคารโบราณสถาน ตึกธัญยประกาศ ซึ่งไม่เป็นความจริง ทั้งยังเคยทำหนังสือถึงกทม.ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2558 ว่ามีเจ้าหน้าที่บางรายแบ่งเป็นห้องเช่าหาประโยชน์ ส่วนในการทำผิดข้อสัญญาในการตกลงรื้อย้ายนั้น ทางชุมชนยืนยันว่าไม่เคยผิดสัญญา วันนี้จะตั้งคณะกรรมการพหุภาคีเพื่อแก้ปัญหา โดยจะขอให้รัฐบาลแต่งตั้งและเป็นคนกลางทำงานร่วมภายในสัปดาห์นี้ ข้อเสนอคือ ขอให้ชุมชนอยู่คู่โบราณสถานป้อมมหากาฬต่อไป

ป้อมแถลง02jpg

นางภารนี สวัสดิรักษ์ นักวิชาการอิสระด้านผังเมือง กล่าวว่า สำหรับรายชื่อตัวแทนคณะกรรมการพหุภาคี ในเบื้องต้นมี 19 ฝ่าย โดยมองภารกิจก่อนตัวบุคคล เน้นการทำงานที่มองไปข้างหน้าว่า สวนสาธารณะ ,โบราณสถาน และชุมชนป้อมมหากาฬ จะอยู่ร่วมกันในอนาคตได้อย่างไร โดยจะมีการวางแผนอนุรักษ์พัฒนาเป็นภารกิจแรก ส่วนภารกิจที่สองจะเป็นการจัดทำแผนการจัดการดูแลพื้นที่หากแผนแม่บทยังไม่เสร็จ สามคือการทำแผนพัฒนาและการมีส่วนร่วม ที่จะทำกับภาคส่วนต่างๆไม่ว่าจะเป็นภาคประชาคม ภาคการท่องเที่ยว และภาคอนุรักษ์ เป็นต้น

ADVERTISMENT

ป้อมแถลง04

นางภารนี กล่าวต่อว่า องค์ประกอบของคณะกรรมการในชุดนี้ คิดว่าคงไม่ใช่คณะกรรมการที่อยู่ภายใต้กทม. แต่ต้องมีคณะกรรมการที่เหนือกว่านั้น  โดยข้อเสนอที่คุยกันในเบื้องต้นคือ มีรมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นประธานซึ่งในขณะนี้ทางชุมชนหารือกัน ว่าอยากขอให้ มล. ปนัดดา ดิศกุล เป็นประธาน ส่วนคณะกรรมการท่านอื่นในขณะนี้มีประมาณ 19 ฝ่าย เช่น ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ ม. มหิดล ซึ่งเชี่ยวชาญด้านสิทธิ, ผศ.ดร. กิตติศักดิ์ ปรกติ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, สมาคมสถาปนิกสยาม ,รศ. ชาตรี ประกิตนนทการ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาตร์  ม. ศิลปากร ซึ่งทำงานวิจัยเรือนไม้โบราณที่ป้อมมหากาฬ ตั้งแต่ พศ 2549 เป็นต้นมา, ผู้แทนจากภาคการท่องเที่ยว,ภาคประชาสังคม, ตัวแทนจาก สอช. ตัวแทนจากชุมชนในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์, ผู้แทนจากกกรมศิลปากร และ ตัวแทนจากคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย

“การมองพื้นที่ชุมชนป้อมมหากาฬในอนาคตไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมาย กรรมสิทธิ์ และสิทธิเท่านั้น แต่ยังมีกฎหมายหลายฉบับในทิศทางของการปฏิรูป  ซึ่งต้องนำมาใช้ในการมองไปข้างหน้าด้วยกัน ตัวแทนจากสถาบันองค์กรพัฒนาชุมชน  ตัวแทนจากคณะกรรมการกรุงรัตนโกสินทร์ จะต้องนำแผนแม่บทที่ทำร่วมกันจากคณะกรรมการพหุภาคีไปใช้ประโยชน์ในการทำแผนแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนาเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ตัวแทนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งขอเสนอ สมสุข บุญญะบัญชา ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการที่อยู่อาศัยของกรุงเทพมหานคร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี การอนุรักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการทำงานชุมชน ผู้แทนมูลนิธิที่ทำงานกับประชาคมในพื้นที่ คือ มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ ผู้แทนจากชุมชนป้อมมหากาฬ ผู้แทนจากทหารฝ่ายพัฒนาซึ่งท่านทำงานกับชุมชนเขตพระนครมาตลอดทุกรัฐบาล ผู้แทนจากกทม. และผู้แทนจากองค์กรวิชาชีพด้านการอนุรักษ์ ทั้งหมดนี้ได้มีการหารือในเบื้องต้นไว้” นางภารนีกล่าว

ป้อมแถลง