นักมวยเข้าแจ้งความ หลังถูกชายอ้างเป็นตำรวจ จับกระท่อม-รีดเงินแลกปล่อยตัว
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 28 พฤษภาคม ที่สน.พญาไท นายพัทรพล พูลสวัสดิ์ หรือ “ฉัตรพลอย ส.พูลสวัสดิ์” อาชีพนักมวย อายุ 24 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ศิวะ กลับพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ 5 – 6 นาย ใน 5 ข้อหา คือ ร่วมกันใช้อำนาจตำแหน่งโดยมิชอบ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนใจหรือขู่เข็ญผู้อื่น ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หลังถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างตัวเป็นตำรวจเข้าจับกุมขณะตนส่งมอบใบกระท่อมให้กับลูกค้า ก่อนเรียกรับเงินเพื่อให้ปล่อยตัว
นายพัทรพล เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อจากวัยรุ่น อายุประมาณ 15-16 ปี ว่า ต้องการติดต่อขอซื้อใบกระท่อมสดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม โดยให้ไปส่งที่ริมทางรถไฟใกล้แยกยมราช ถนนพระราม 6 เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คน เข้ามาขอตรวจของที่นำมาโดยกลุ่มชายดังกล่าวก็ทักท้วงว่ามีของเพียง 6 กิโลกรัม ก่อนที่จะเข้าจับกุมและนำตัวพร้อมของกลางไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านคลองตัน และมีการพูดคุยเจรจาให้ตนจ่ายเงินเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งเมื่อนำตัวตนเข้ามาภายในห้องกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ทำร้ายด้วยการฟันศอกเข้าที่บริเวณใบหน้าและกกหูจนล้มลง
นายพัทรพล กล่าวว่า จากนั้นกลุ่มชายดังกล่าวได้เรียกเงินจำนวน 1 แสนบาทเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี แต่ตนยืนยันว่าไม่มีเงินจำนวนเยอะเท่าที่เรียกมา กลุ่มชายฉกรรจ์จึงลดให้เหลือ 7 หมื่นบาท และ 5 หมื่นบาทตามลำดับ ก่อนจะให้ตนใช้โทรศัพท์มือถือกดโอนเงินให้ ซึ่งช่วงแรกตนโอนเงินให้เพียง 3 หมื่นบาท ส่วนเงินจำนวนที่เหลืออีก 2 หมื่นบาทให้ญาติเป็นคนนำเงินสดมาให้ แต่แทนที่กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวจะปล่อยตัว กลับพาตนไปที่ด้านล่างของอาคารกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (กก.สส.บก.น.1) บริเวณถนนศรีอยุธยา และพูดเกลี้ยกล่อมให้ผู้เสียหายเป็นนกต่อช่วยขยายผลไปจับกุมยาเสพติดในคดีอื่นๆ โดยแลกเปลี่ยนกับการคืนเงินที่เรียกรับไปก่อนหน้านี้บางส่วน แต่ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่สามารถติดต่อกับบุคคลอื่นได้ จากนั้นชายชุดดังกล่าวได้นัดแนะว่าในช่วงเย็นวันนี้จะให้ตนพาไปขยายผลจับกุมยาเสพติดกับผู้ค้ารายอื่น แล้วจะให้เงินค่าขนม
“ยอมรับว่าเป็นผู้กระทำความผิดในการจำหน่ายใบกระท่อมจริงและพร้อมที่จะให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่รับไม่ได้กับพฤติกรรมของบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะมีการขู่บังคับทำร้ายร่างกายและหากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงก็เกรงว่า กลุ่มตำรวจนายดังกล่าวจะไปก่อเหตุกับบุคคลอื่นอีก จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” นายพัทรพล กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท กล่าวว่า หลังจากที่ผู้เสียหายให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว พบว่าพฤติการณ์การก่อเหตุทั้งหมดเกิดขึ้นในพื้นที่สน.คลองตัน หลังจากนี้จะนำข้อมูลการสอบปากคำผู้เสียหายและข้อมูลพยานหลักฐานบางส่วนส่งให้สนคลองตันเป็นผู้ติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ภายหลังจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสน.พญาไทแล้ว ได้เดินทางไปเข้าพบ พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี ผกก.สส.บก.น.1 เพื่อสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งทางพ.ต.อ.นิวัฒน์ ได้นำชุดสืบสวนในสังกัดมาให้ผู้เสียหายดูว่า มีใครที่เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่า ไม่มีตำรวจนายใด คล้ายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากนั้นได้ทำการสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลของคนร้าย เส้นทางที่ใช้ รวมถึงพฤติการณ์ทั้งหมด เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี เบื้องต้นตำรวจทราบแล้วว่า 1 ในผู้ก่อเหตุคือใคร และผู้เสียหายก็ยืนยันว่า ผู้สงสัยที่ตำรวจมีข้อมูลเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุจริง หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อใช้ในการออกหมายเรียกหรือหมายจับคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
