ศบค.เผยติดเชื้อใหม่ เรือนจำเกินครึ่ง กทม.พลิกกลับติดเชื้อเกินพันราย ฉีดวัคซีนแล้ว 3.5 ล้านคน

ศบค.เผยติดเชื้อใหม่ พบเรือนจำเกินครึ่ง ทั่วโลกป่วยทะลุ 170 ล้าน กทม.พลิกกลับติดเชื้อเกินพันราย

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก สะสมแตะ 170,126,628 ราย ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับที่ 84 ของโลก ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 4,803 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,050 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 51 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 2,702 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 149,779 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 34 ราย สะสม 988 ราย อัตราการเสียชีวิต 0.66% ขณะที่ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 4,439 ราย ยังเหลือรักษาอยู่ 46,480 ราย แบ่งไปในโรงพยาบาล (รพ.) 18,720 ราย ในรพ.สนามและอื่นๆ 27,760 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 1,221 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ใส่ท่อช่วยหายใจ 406 ราย

“ขณะนี้มีผู้ป่วยยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล จะมีการส่งบุคลากรทั่วประเทศช่วยประชาชนชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะหลายพื้นที่ยังต้องการบุคลากรเพิ่มเติม จึงต้องระดมสรรพกำลังบุคลากรทางการแพทย์จากต่างจังหวัดเข้ามาช่วย” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สถานะการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-28 พ.ค. สะสม 3,504,125 โดส แบ่งเป็นผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 2,415,903 รายและผู้ได้รับครบ 2 เข็ม อีก 1,088,221 ราย อย่างไรก็ตามเป็นตัวเลขที่เยอะพอสมควร ซึ่งสอดคล้องกับข่าวดีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์แถลงข่าวร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดหาวัคซีนทางเลือกเข้ามาเบื้องต้น 1 ล้านโดส เพื่อให้ภาคเอกชนและผู้ที่มีกำลังซื้อ ทั้งนี้ เป็นวัคซีนคนละยี่ห้อกับที่ภาครัฐจัดให้

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต 34 ราย แบ่งเป็นเพศชาย 18 ราย หญิง 16 ราย อายุเฉลี่ย 35-87 ปี พบใน กรุงเทพฯ 21 ราย ปทุมธานี เชียงราย สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย ส่วนเพชรบุรี เพชรบูรณ์ นนทบุรี อยุธยา ราชบุรี สงขลา สระบุรี จังหวัดละ 1 ราย ขณะที่โรคประจำตัวปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ได้แก่ ความดันโลหิตสูง 20 ราย เบาหวาน 16 ราย ไขมันในเลือดสูง 10 ราย ไตเรื้อรัง 4 ราย โรคปอด หัวใจ อย่างละ 2 ราย โรคอ้วน โรคตับ หลอดเลือดสมอง อย่างละ 1 ราย และไม่มีโรคประจำตัว 5 ราย ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาจากคนในครอบครัว 16 ราย เพื่อนร่วมงาน 2 ราย ทำอาชีพเสี่ยง 5 ราย อาศัยหรือเดินทางไปในพื้นที่ระบาด 5 ราย ไปในที่คนหนาแน่น 1 ราย และระบุไม่ชัดเจน 5 ราย

Advertisement

“วันนี้มีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ คือ กัมพูชา 47 ราย ไม่สบายใจทุกครั้งที่ต้องอ่าน เพราะเป็นการเดินทางเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งยังคงมีอยู่ 1 ราย แต่ก็ขอขอบคุณ 46 รายที่เหลือ ที่เข้ามาผ่านด่านข้ามแดนถาวรทางบก ที่เราเปิดทำการ 5 วัน ขอให้ท่านผ่านเข้ามาช่องทางนี้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จํานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 จังหวัดแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 1,054 ราย สะสม 39,463 ราย สมุทรปราการ 215 รายสะสม 6,397 ราย นนทบุรี 186 ราย สะสม 6,576 ราย ชลบุรี 80 ราย สะสม 4,515 ราย ปทุมธานี 65 ราย สะสม 3,338 ราย เพชรบุรี 64 ราย สะสม 4,437 ราย สมุทรสาคร 43 ราย สะสม 2,441 ราย ตรัง 37 ราย สะสม 381 รายสงขลา 31 ราย สะสม 1,415 ราย และนครปฐม 26 ราย สะสม 1,255 ราย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การติดเชื้อในเรือนจำวันนี้พบ 2,702 ราย สะสม 22,398 ราย ส่วนการติดเชื้อนอกเรือนจำ 2,050 ราย แบ่งเป็นจังหวัดอื่นๆ 461 ราย คิดเป็น 22% แต่เฉพาะใน กทม.และปริมณฑล รวม 1,589 ราย คิดเป็น 78% ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อใน กทม. ยังขึ้นๆ ลงๆ หลายวันก่อนอยู่ในหลัก 8-9 ร้อย ราย แต่วันนี้แตะที่ 1,054 ราย

Advertisement

“แผนที่แสดงจํานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ประเทศไทย พบว่า 58 จังหวัด เป็นพื้นที่สีขาวและสีเขียว ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ช่วยทำให้ตัวเลขลดลงมาเป็นหลักหน่วย และเป็นศูนย์ได้ ก็ขอให้ทุกคนคงตัวเลขนี้ไว้ ไม่อยากให้เพิ่มขึ้น เพราะถ้าเป็นศูนย์ไปเรื่อยๆ 14 วัน ก็น่าจะสบายใจได้ว่า ความเสี่ยงน้อยลง เชื้อจะหมดจากจังหวัดของท่านแล้ว” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image