เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ 6 กันยายน ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้าความคืบหน้าจากเหตุหมีควายไม่ทราบเพศ ความสูงเกือบ 1เมตร น้ำหนักกว่า 80 กก.ทำร้ายตะปบชาวบ้านชื่อนายคำพันธ์ คำวิชัย อายุ 44 ปี เลขที่ 21 หมู่ 5 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลฉกรรจ์ใบหน้า ตาทั้ง 2 ข้าง จมูกเป็นแผลเหวอะหวะ ,แขนหักขณะที่กำลังทำความสะอาดต้นโสนในคลองชลประทานส่งน้ำ เพื่อส่งขายทำงานประดิษฐ์ ถูกส่งรักษาอาการที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตามที่เสนอนั้น
ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ย.) ได้มีนายปรีชา พู่ระหง ผอ.ส่วนสัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์(หญิง) ชนัญญา กาญจนสาท นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่1 (ปราจีนบุรี),นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี),นายสกล ชุณหชัชวาลกุล ,นายณัฐพงษ์หงษ์ทอง นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่,นายประดิษฐ์ คำวิชัย กำนัน ต.บุฝ้าย ,นายสมชาย ศรีกล่ำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบุฝ้าย (อบต.) พ.ต.อ.วันชัย พิทักษ์ตันสกุล ผกก.สภ.ประจันตคาม และเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าภาคกลาง จ.นครนายก ได้นำกรงเหล็กขนาดกว้างประมาณ 1.50 เมตร ยาว 2 .50 เมตร
ปากทางเข้าด้านหน้าเป็นที่ปิด – เปิด จะชักดึงประตูขึ้นไว้ด้านบน สำหรับดักล่อสัตว์ให้เดินเข้าไปด้านใน หลังจากที่ได้กลิ่น –เห็นอาหารที่แขวนไว้ในกรงเหล็ก ด้านในมีสายเอ็นใสสำหรับขึง – แขวนเหยื่อล่อหมีควาย โดยได้เตรียมผลไม้เป็นขนุนสุกงอม 1 ลูกส่งกลิ่นโชยหอม และกล้วยน้ำว้า 1 หวี เพื่อวางดักหมีควายตัวดังกล่าว ล่อให้เข้ามากินอาหารด้านใน เมื่อหมีเข้ามาดึงผลไม้เพื่อกิน บานประตูจะปิดลงดักทางไม่ให้ออกไปได้
โดยได้นำไปวางในจุดที่พบหมีควายล่าสุด เป็นสวนไม้ไผ่ตง บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่เศษ พร้อมปลูกผลไม้หมุนเวียน อาทิ ส้มโอ และกล้วย โดยที่ต้นกล้วยนับ 10 ต้น หมีควายแกะกินหยวกกล้วยจนต้นล้มเป็นทาง มองเห็นชัดเจน ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กม.พร้อมมีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ที่มีชาวบ้านเจ้าของสวนดังกล่าวชื่อนายสุชาติ ดิษฐ์วงษา อายุ 50 ปี เลขที่ 6 หมู่ 6 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พบหมีควายครั้งล่าสุด ในช่วงสายวันนี้ (6 ก.ย.)
นายสุชาติ กล่าวว่า “ช่วงประมาณ 10.00 น. ที่ชายทุ่งนา ติดกับสวนไผ่ตง และผลไม้ได้พบหมีควายกำลังเดิน 4 ขา ตามคันนาเพื่อเข้ามาในสวนไผ่ ที่อาจเข้ามาหลบร้อน หรือมากินหยวกกล้วย ที่ล้มระเกะระกะนับสิบต้น”
ขณะที่ นายสัตวแพทย์(หญิง)ชนัญญา กล่าวว่า “ได้ยุติการเดินค้นหาหมีควาย โดยปรับเปลี่ยนนำกรงเหล็กมาวางดักในจุดที่พบหมีควาย โดยใช้ขนุนสุก และกล้วยเป็นเหยื่อ – อาหารล่อให้เข้ามาในกรงต่อไปเมื่อหมีเข้ามาดึงผลไม้เพื่อกิน บานประตูจะปิดลงดักทางไม่ให้ออกไปได้”
ด้านนายตระกูล อาจอรัญ หัวหน้าอุทยานแห่หงชาติเขาใหญ่ที่ 10 (ขญ.10)กล่าวว่า “ได้หยุดการเดินค้นหาหมีควายดังกล่าว โดยไม่พบตัวหมี พบแต่ร่องรอยของหมีควาย โดยได้ใช้กรงเหล็กมาวางดักในจุดที่คาดว่าหมีควายจะออกกมาหากิน ส่วนในการป้องกันอันตรายจากหมีที่อาจทำร้ายชาวบ้านนั้นได้ประชาสัมพันธ์ผ่านกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ต.บุฝ้ายหากพบหมีควายในจุดใดให้รีบแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่จะมีชุดช่วยเหลือสัตว์ป่าในการยิงยาสลบเพื่อนำไปพักฟื้นและปล่อยคืนป่าธรรมชาติต่อไป”
นายประดิษฐ์ คำวิชัย กำนัน ต.บุฝ้าย กล่าวว่า “ได้ประชุมผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่อง แจ้งเบาะแส ประกาศเตือนภัย หากพบหมีควายในพื้นที่ โดยเฉพาะจุดพื้นที่ ที่ชาวบ้านพบอันได้แก่ หมู่ 5,6,9,10 ต.บุฝ้าย ที่ต่อเนื่องกัน ให้รีบแจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน-กำนัน หรือป่าไม้โดยด่วน”