ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. เครือข่ายเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาประวัติศาสตร์-โบราณคดีของสามัญชน ออกแถลงการณ์เรื่องขอประณามกรุงเทพมหานครในการไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ มีเนื้อหาโดยสรุปว่า กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานที่มิได้ให้ความสำคัญกับความคิดเรื่องประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและชุมชนตามที่ได้กล่าวอ้างไว้ในพันธกิจ โดยอ้างถึงอำนาจบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่มีการผ่อนปรน หรือปรับแปรให้สอดคล้องกับภาวะเป็นจริง จึงขอประณามการดำเนินการของกรุงเทพมหานครต่อชุมชนป้อมมหากาฬทั้งในทางที่แจ้งและที่ลับ ถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมได้แก่การใช้อำนาจ ข่มขู่ ใช้กฎหมายเพียงหน้าเดียว และความไร้วิสัยทัศน์ในด้านวัฒนธรรม ที่เห็นได้จากการพยายามไล่รื้อชุมชนชานพระนครแห่งสุดท้ายของกรุงรัตนโกสินทร์โดยปราศจากการตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี ดังกล่าวนี้แสดงถึงศักยภาพอันอ่อนด้อยในการปฏิบัติงานบริหารและการเข้าถึงประชาชนของกรุงเทพมหานครที่เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด และเป็นการละเมิดต่อสิทธิในการครอบครองที่ดินตามประเพณี (customary land) ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับของหลายประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ มีผู้ร่วมลงชื่อแนบท้าย 101 ราย ประกอบด้วยนักประวัติศาสตร์ อาจารย์มหาวิทยาลัย และนักวิชาการที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก อาทิ นายสุจิตต์ วงษ์เทศ ผู้ก่อตั้งนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ศิษย์เก่าคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร , ผศ.ดร. ประภัสสร์ ชูวิเชียร อาจารย์คณะโบราณคดี ม.ศิลปากร ผู้เขียนหนังสือ ‘วัดร้างในบางกอก’ , ผศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง, ผศ.พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, นายกำพล จำปาพันธ์ นักประวัติศาสตร์ ผู้เรียบเรียงหนังสือ ‘นาคยุดครุฑ’ เป็นต้น
รายละเอียดในแถลงการณ์มีดังนี้
แถลงการณ์เครือข่ายเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาประวัติศาสตร์-โบราณคดีของสามัญชน
เรื่อง ขอประณามกรุงเทพมหานครในการไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ
จากความคืบหน้าที่ค่อนข้างน่าพอใจในการเจรจาร่วมกันระหว่างชุมชนป้อมมหากาฬกับกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2559 โดยมีการรับปากจากทางตัวแทนของกรุงเทพมหานครว่าจะไม่ไล่รื้อชุมชนทั้งหมดเพียงแต่รื้อเฉพาะบ้านหลังที่ผู้อยู่อาศัยได้รับการเยียวยาไปแล้วจำนวน 12หลัง และจะร่วมกันตั้งคณะภาคีร่วมขึ้นเพื่อจัดการพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬต่อไปนั้น อย่างไรก็ตามเพียงหนึ่งวันหลังจากนั้นคือในวันที่ 4 กันยายน 2559 เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครได้ละเมิดคำสัญญาที่ให้ไว้ด้วยการรื้อบ้านไม้นอกเหนือจากที่ตกลงไว้เนื่องจากกล่าวอ้างว่ามีผู้รับเงินเพิ่มเติมจากเดิม
พฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าทางกรุงเทพมหานครมิได้มีความจริงใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อประชาชน อีกทั้งยังมักใช้การแสดงอำนาจ ก้าวร้าว ข่มขู่ด้วยความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อสะสางความรับผิดชอบซึ่งละเมิดสิทธิขั้นมูลฐาน ตรงกันข้ามกับความอดทนต่ออำนาจกดทับและพยายามใช้หลักสันติเพื่อคลี่คลายปัญหาของชาวชุมชน
ชุมชนป้อมมหากาฬ เป็น “ชุมชนชานพระนคร” แห่งสุดท้าย ซึ่งอยู่อาศัยสืบกันมาตามความทรงจำไม่น้อยกว่า 100 ปี และมากกว่านั้นหากอ้างอิงกับหลักฐานทางโบราณคดีว่าเป็นชุมชนชานพระนครที่มีการตั้งถิ่นฐานกันตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
“ชานพระนคร” นี้หมายถึงที่ว่างระหว่างกำแพงเมืองและคูเมืองซึ่งเป็นเขตกันชนระหว่างภายในและภายนอกราชธานี จึงมีบ้านเรือนของทั้งขุนนางและสามัญชนตั้งอยู่ปะปนกัน และขับเคลื่อนความเป็นเมืองผ่านอายุสมัยของกรุงรัตนโกสินทร์มาโดยตลอด แม้ปัจจุบันพื้นที่ภายในชุมชนจะแปรสภาพเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนทั่วไป แต่ก็ยังนับว่ามีกลิ่นอายของย่านเก่าที่ยังคงมีชีวิตเพราะเป็นที่พักอาศัยของชาวเมือง มีกิจกรรมและสภาพกายภาพที่สมบูรณ์ เช่น บ้านไม้โบราณ ต้นไม้ใหญ่ที่เป็นปอดของกรุงเทพฯ ตัวป้อมปราการและกำแพงเมือง-คลองคูเมือง คุณค่าของชุมชนป้อมมหากาฬจึงมิได้มีอยู่เพียงบ้านไม้โบราณหรือประวัติศาสตร์ แต่เป็นแหล่งชุมชนเก่าที่มีชีวิตชีวาแวดล้อมด้วยหลักฐานทางโบราณคดีและธรรมชาติ ซึ่งหาไม่ได้อีกแล้วในเขตเมืองหลวง
ที่ผ่านมาเป็นเวลานับ 20 ปี นับตั้งแต่เริ่มมีแผนแม่บทจัดการเกาะรัตนโกสินทร์ ชุมชนป้อมมหากาฬได้พยายามเจรจาหาทางออกทั้งในแง่หลักนิติธรรม วัฒนธรรม เพื่อจัดการให้ชุมชน ได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต จัดเวรยามดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา ซึ่งตอบโจทย์การเป็น “แหล่งท่องเที่ยว” ที่ทางราชการปรารถนาให้เกิดขึ้นภายในเกาะรัตนโกสินทร์ ทว่าทางกรุงเทพมหานครกลับมองเห็นว่าชุมชนเป็นแหล่งเสื่อมโทรม เป็นที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยซึ่งอาจไล่รื้อได้โดยง่าย อีกทั้งมองการจัดการให้พื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์เป็นแหล่งที่ไร้ชีวิต คือปลอดจากคนอยู่อาศัยในลักษณะ “ชุมชนเทียมแท้” จึงได้มีการใช้ทั้งตัวบทกฎหมายและกลวิธีที่หน่วยงานราชการไม่พึงกระทำ เข้ามาบีบคั้นให้ชุมชนต้องยอมรับการไล่รื้อดังกล่าว จนในที่สุดทางชุมชนได้ทำข้อตกลงให้กรุงเทพมหานครเข้ารื้อบ้านเฉพาะบางหลังดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แต่ก็ยังมีท่าทีคุกคามชุมชนโดยไม่สนใจกับข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเมื่อมีการเจรจาข้อตกลงในวันที่ 3 กันยายน 2559 นั้น ทางกรุงเทพมหานครไม่ยอมทำให้ข้อเจรจาเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรเพื่อเป็นหลักฐานขึ้นมา
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่ากรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานที่มิได้ให้ความสำคัญกับความคิดเรื่องประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและชุมชนตามที่ได้กล่าวอ้างไว้ในพันธกิจ โดยอ้างถึงอำนาจบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่มีการผ่อนปรน หรือปรับแปรให้สอดคล้องกับภาวะเป็นจริง ซึ่งต้องยอมรับว่ากฎหมายซึ่งเป็นเรื่องการตรากฎเกณฑ์ทางสังคมไม่อาจนำมาใช้การจัดการมรดกทางวัฒนธรรมได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามชุมชนป้อมมหากาฬได้เคารพต่อกฎหมายและพยายามใฝ่หาทางออกร่วมกันอย่างกลมกลืนมาโดยตลอดเพื่อพัฒนาพื้นที่นี้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกรุงเทพฯที่สืบมาตั้งแต่สมัยแรกสร้างพระนคร ที่ยัง “มีชีวิต” อยู่
ทาง เครือข่ายเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาประวัติศาสตร์-โบราณคดีของสามัญชน จึงขอประณามการดำเนินการของกรุงเทพมหานครต่อชุมชนป้อมมหากาฬทั้งในทางที่แจ้งและที่ลับ ถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมได้แก่การใช้อำนาจ ข่มขู่ ใช้กฎหมายเพียงหน้าเดียว และความไร้วิสัยทัศน์ในด้านวัฒนธรรม ที่เห็นได้จากการพยายามไล่รื้อชุมชนชานพระนครแห่งสุดท้ายของกรุงรัตนโกสินทร์โดยปราศจากการตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี ดังกล่าวนี้แสดงถึงศักยภาพอันอ่อนด้อยในการปฏิบัติงานบริหารและการเข้าถึงประชาชนของกรุงเทพมหานครที่เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด และเป็นการละเมิดต่อสิทธิในการครอบครองที่ดินตามประเพณี (customary land) ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับของหลายประเทศทั่วโลก
รายนามผู้ลงชื่อ (จำนวน 101 คน)
- นายสุจิตต์ วงษ์เทศ ศิษย์เก่าคณะโบรารคดี ม.ศิลปากร
- ผศ.ดร.ประภัสสร์ ชูวิเชียร คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ผศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ผศ.พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ผศ.อรรถพล อนันตวรสกุล ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- อ.สิทธารถ ศรีโคตร ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- อ.ธีระวัฒน์ แสนคำ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
- อ.ดร.ภาสกร อินทุมาร คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ.รุจาดล นันทชารักษ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
- อ.ดร.ธีระนันท์ วิชัยดิษฐ อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- อ.ปติสร เพ็ญสุต คณะมนุษยศาสตร์ วิทยาลัยแสงธรรม
- อ.ดร.พัทธ์ธีรา นาคอุไรรัตน์ อาจารย์สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหิดล
- อ.บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์ ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ว่าที่ ร.อ.ดร.อัครินทร์ พงษ์พันธ์เดชา นักวิชาการอิสระ
- นายกมลาศ เพ็งชะอุ่ม จบสาขาโบราณคดี จากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบันทำงานที่ กรมศิลปากร
- นายกำพล จำปาพันธ์ นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- นฤมล กองแก้ว คณะศิลปศาสตร์ (ประวัติศาสตร์) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- สสิทรา ณ ป้อมเพ็ชร์ ศิษย์เก่าคณะโบราณคดี ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ชิดชนก ถิ่นทิพย์ ศิษย์เก่าภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- นายนวพล ลินติดต่อ อดีตนักศึกษาภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- นางสาวอภิษฐา ดวงมณี นักศึกษาปริญญาโท สาขามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- นางสาวพันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร ศิษย์เก่าคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร
- อนรรฆ พิทักษ์ธานินทร์ บัณฑิตคณะโบราณคดี สาขามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร
- นางสาวพรทิวา ปักษาไพร นักศึกษาสาขาพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- นายชนากร ปรีชา ศิษย์เก่าภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- นายเฉลิมพล โตสารเดช วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
- พิชยพรรณ ช่วงประยูร นักศึกษาปริญญาโท สาขาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ธรรมาภรณ์ ไพรีพินาศ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- นายธนพล บึงอำพันธ์ นักศึกษาคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- อรวรรณ จิตรรัมย์ คณะโบราณคดี สาขาโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ฆนัท นาคถนอมทรัพย์ นักทำสารคดีบริษัท 3000 BC
- ปฐมนต์ สารสมบัติ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ธนัยนันท์ ราชกิตวาณิชย์ al jamea tus sia fiyah surat india สาขา อิสลามศึกษา ทำงานอิสระ
- สมศักดิ์ อมรพงศ์ชัย
- จิณห์วรา ช่วยโชติ มานุษยวิทยา
- อภิยุทธ สุตัญตั้งใจ สาขารัฐประศาสนศาตร์ คณะวิทยาการจัดการ ศิลปากร ปัจจุบันข้าราชการพลเรือน
- น.ส.อาอีฉ๊ะ แก้วนพรัตน์ นักศึกษาคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- น.ส.ศศิฉาย ตั้งเกษมสัน จบคณะโบราณคดี สาขามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร
- นายศิวกร โรจน์ขจรนภาลัย คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
- นำชัย พยัฆชาญศิลป์ ครุศาสตร์ สังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
- ณัฐฐินันท์ สระทองจันทร์ น.ศ. คณะศิลปศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยว เทคนิคกรุงเทพ
- น.ส.ปัญญาภรณ์ พราหมณ์โต จบโบราณคดี สมัยประวัติศาสตร์ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- น.ส. เจนจิรา เบญจพงศ์ นักวิชาาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
- ชินวัจน์ แสงอังศุมาลี จบ สาขาบริบาลทางเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
- สุทธิสาร์ ถีติปริวัตร์ จบสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- สวิตรา ดวงประทีป นักข่าวหนังสือพิมพ์
- ขวัญชัย สินปรุ สาขาศิลปไทย คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ณรงค์ แสงเพชร คณะศิลปกรรม ออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยรังสิต
- โรจนะ ธรรมเนียม อาชีพอิสระ
- บัณฑิต หอมเกษ สมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน
- นาย ภควัต พรหมทัต, วิศวกร
- นายจิรวัฒน์ ตั้งจิตรเจริญ นักศึกษาคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ปลาสร้อย กล่ำกล่อมจิตร สาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- นายพงษ์ภัค พิทยชินโชติ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- นายนคร เชียงของ นายช่างโยธา องค์การบริหารส่วนตำบลสามพราน สถาปนิกอิสระ
- นายภาณุฤทธิ์ สารสมบัติ คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
- นางสาว วิราวรรณ นฤปิติ ประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นักวิชาการอิสระ
- สมศักดิ์ โอภาสโศภณ
- นาย วารุต ขำเจริญ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สาริศ วัฒนากาล โบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ณัฐพล ศรีใจ นิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- อัจฉริยา ชูวงศ์เลิศ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
- ปรีชา ศรีตุลยโชติ ชุมชนศุภมิตร2(นางเลิ้ง)
- นายวงศ์ศรุต วนบุญญานนท์ นักศึกษาเอกประวัติศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ศิวพงศ์ สีเสียดงาม นักวิชาการอิสระ
- วันวิสาข์ ธรรมานนท์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- นายวรวุฒิ ศักดิ์สุริยผดุง นิสิต ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ชลเทพ ปั้นบุญชูครับ ศิษย์เก่า คณะโบราณคดี สาขา มานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ภัคธร ชาญฤทธิเสน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏกาญจนบุรี
- พิมพ์ชนก พงษ์เกษตร์กรรม์ นักโบราณคดีอิสระ
- นัทกฤษ ยอดราช ศิษย์เก่าคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ภูมินทร์ จังอินทร์ นักศึกษาประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ชาติตระการ นิลหัติ ศิษย์เก่าคณะโบราณ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ประเทือง นรินทรางกูล ณ อยุธยา ศิษย์เก่าสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- อภัยชนม์ สัจจะพัฒนกุล ศิษย์เก่าประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ประยุทธ สายต่อเนื่อง ศศ.บ ประวัติศาสตร์ ศศ.ม ประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ศตรัญชน์ อมรวงศ์ คณะโบราณคดี เอก มานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร
- นราธิป ทองถนอม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา พนักงานบริษัท
- แพรว วงค์สอาด คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา พนักงานบริษัท
- ภูดิศ วรรณพรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา นักร้องอิสระ
- มาริษา อังกุลดี บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- ปุณณดา แจ้งพลอย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ครู สอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
- ณัฐสุมล สวยงาม บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- สรัล เสริฐบุตร บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- อภิวัฒน์ สุขวัฒนวดี บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- นรสิงห์ พรหมวงศ์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ครู สอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
- ณัฐปภัสร์ เก่งรักษา บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- วสุ เสมาเพชร บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ฝ่ายบุคคล
- นายกรกต สวาทภักดิ์ บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- สุลักษณ์ ศรีอรุณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา พนักงานเอกชน ตำแหน่งนักวิชาการ
- บานชื่น ผกามาศ นักศึกษาปริญญาโท สาขาวัฒนธรรมศึกษา สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชียและบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล
- ณัชพร ม่วงเกลี้ยง บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- ธนิศา ปากสมุทร บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- ชญานิษฐ์ สุดาเทพ บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- ประทีป ฉายลี วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร
- ดร.สายป่าน ปุริวรรณชนะ นักวิชาการอิสระ
- นางสาว สีวลี หลักเมือง บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ ม.มหาสารคาม
- ประภัสสร เลิศเสถียร จบสาขาวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันทำงาน media online agency
- น.ส. นิสา อาลี บัณฑิตคณะโบราณคดี สาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ
มหาวิทยาลัยศิลปากร - ชนานุช คำสุข ดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล อาชีพแม่บ้าน
- สรรเสริญ บุญเกษม นักศึกษาโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์