‘บิ๊กตู่’ ปลดล็อกแคมป์ก่อสร้าง 4 ประเภท วิษณุแจงคลายล็อกเฉพาะงานอันตราย

‘บิ๊กตู่’ ปลดล็อกแคมป์ก่อสร้าง 4 ประเภท วิษณุแจงคลายล็อกเฉพาะงานอันตราย

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 4 กค.ที่ผ่านมาว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติในหลักการการให้อนุญาตสำหรับการก่อสร้างโครงการก่อสร้างบางประเภท และเคลื่อนย้ายแรงงานในกรณีที่มีความจำเป็น

โดยเสนอขอให้มีการผ่อนคลายข้อกำหนดฉบับที่ 25 กรณีคำสั่งห้ามการก่อสร้างในโครงการก่อสร้างบางประเภท ได้แก่

1.โครงการก่อสร้างซึ่งหากหยุดก่อสร้างในทันที หรือการดำเนินการล่าช้าอาจก่อให้เกิดความเสียหายเชิงโครงสร้างด้านวิศวกรรมจนยากต่อการแก้ไข หรือเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา หรือชุมชนโดยรอบโครงการก่อสร้างนั้น เช่น โครงการก่อสร้างใต้ดินที่มีความลึก การก่อสร้างชั้นใต้ดินที่ยังไม่ได้เทปูนปิดล้อม

2.การก่อสร้างชั่วคราวซึ่งหยุดการก่อสร้างในทันที หรือดำเนินการล่าช้าจะได้รับความเสียหายจนเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา หรือชุมชนโดยรอบโครงการดังกล่าว เช่น นั่งร้าน และแบบรอการเทปูน โดยเฉพาะแผ่นพื้นที่

Advertisement

3.การก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านการจราจร เช่น ไฟสัญญาณจราจร แบริเออร์กั้นช่องจราจร แผ่นเหล็กปิดงานก่อสร้างบนผิวจราจร และ

4.การก่อสร้างในสถานที่ก่อสร้างที่มีความเกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาล (รพ.) สนาม, รพ., สถานพยาบาล หรือสถานที่ก่อสร้างอื่นๆ ที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคผ่อนผันให้ข้าม จว.เพื่อรักษาตัว

นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมพิจารณาขอผ่อนคลายคำสั่งเคลื่อนย้ายแรงงานประเภทก่อสร้างจากสถานที่พักชั่วคราว ทั้งกรณีการข้ามเขตจังหวัด หรือภายในเขตจังหวัด เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคโควิด-19 เช่น การรักษาพยาบาล การควบคุมป้องกันโรค การตรวจสุขภาพ การตรวจวินิจฉัยและการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ให้ ผู้ว่าฯกทม. หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการโรคติดต่อเป็นผู้พิจารณาอนุญาตโครงการก่อสร้างที่เข้าหลักเกณฑ์ทั้ง 4 ประเภทข้างต้นในเขตพื้นที่ของตนเองเป็นกรณีไป

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้พิจารณาข้อเสนอดังกล่าวแล้ว และได้ให้ความเห็นชอบในหลักการ ขณะเดียวกัน มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อความมั่นคงด้านสาธารณสุข ดังนี้ เห็นสมควรให้ผ่อนคลายคำสั่งห้ามการก่อสร้างในโครงการบางประเภทตามที่ กทม.เสนอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการที่แรงงานก่อสร้างนั้นได้รับวัคซีนแล้ว

โดยสามารถเคลื่อนย้ายแรงงานก่อสร้างนั้นได้ ขณะเดียวกันเห็นสมควรให้ผู้ว่าฯกทม. หรือผู้ว่าราชการจังหวัด เป็น ผู้พิจารณาอนุญาตโครงการก่อสร้างที่เข้าหลักเกณฑ์เป็นรายๆ ไป และขอให้ กทม.และจังหวัดปริมณฑลกำกับติดตามการดำเนินการก่อสร้างโครงการที่มีความจำเป็นตามที่ได้รับการผ่อนคลายให้ดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดอย่างเคร่งครัด

รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนกรณีการก่อสร้างขนาดเล็กที่ไม่ถูกห้ามตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 ถ้าผู้ว่าฯกทม.หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่า หากปล่อยให้การก่อสร้างแล้วอาจเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขอให้ใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อพิจารณาสั่งปิดสถานที่ก่อสร้าง หรือหยุดการก่อสร้างได้ตามอำนาจ

นอกจากนี้ ให้ทาง กทม.และจังหวัดปริมณฑลทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้เข้าใจมาตรการตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 ที่ไม่ห้ามการก่อสร้างโครงการขนาดเล็ก ซึ่งไม่มีการเคลื่อนย้ายแรงจำนวนมากอันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่กระจายของโรค และให้จัดช่องทางสำหรับประชาชนหรือผู้ประกอบการในการที่จะสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินการตามคำสั่งตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 ด้วย ทั้งนี้ เมื่อ ศปก.ศบค.เสนอขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะ ผอ.ศบค.แล้ว จึงได้ลงนามเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมาแล้ว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณี พล.อ.ณัฐพล ทำหนังสือขออนุมัติหลักการให้อนุญาตสำหรับการก่อสร้างโครงการก่อสร้างบางประเภทและเคลื่อนย้ายแรงงานในกรณีมีเหตุจำเป็นว่า หลังจาก ผอ.ศบค.อนุมัติแล้ว ทางจังหวัดแต่ละจังหวัดจะต้องไปออกประกาศของตัวเองอีกครั้ง หากจังหวัดยังไม่ออกประกาศก็ยังไม่มีผลบังคับใช้

โดยแต่ละจังหวัดจะต้องไปสำรวจก่อนว่าจังหวัดของตัวเองมีงานก่อสร้างตรงไหนที่ยังค้างคาอยู่ ทั้งนี้ การคลายล็อกดังกล่าวไม่ได้เป็นการคลายล็อกถาวร แต่เป็นการคลายล็อกชั่วคราว และเฉพาะบางงานที่ทำให้เกิดอันตรายหากทิ้งไว้

เนื่องจากหลังมีการออกข้อกำหนดฉบับที่ 25 มีการรายงานกลับมาว่างานก่อสร้างบางประเภทต้องหยุดทันที อุปกรณ์อะไรต่างๆ ยังอยู่ที่เดิม บางแห่งปั้นจั่นยังคาไว้ จึงต้องคลายล็อกชั่วคราวเพื่อให้หัวหน้าช่างพาคนงานไปเก็บงานให้เสร็จ จะปล่อยเคว้งไว้ไม่ได้ ส่วนงานก่อสร้างอื่นๆ ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงจะทำให้เกิดอันตรายยังหยุดเหมือนเดิมตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 อย่างไรก็ตาม ในส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดฉบับที่ 25 นั้น ยังมีการเยียวยาอยู่เหมือนเดิม

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image