สรุปไทม์ไลน์ ‘โรงงานหมิงตี้’ ตั้งแต่เหตุระเบิด ไฟไหม้ 5 ก.ค. ถึงเช้าวันรุ่งขึ้น

สรุปเหตุการณ์ โรงงานหมิงตี้ ซอยกิ่งแก้ว 21 ตั้งแต่เหตุบึ้มวันที่ 5 ก.ค. ถึงรุ่งเช้า 6 ก.ค.

ราว 02.50 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม มีรายงานเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย อีกทั้งแรงระเบิดดังกล่าวสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนในรัศมีใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเป็นโกดังเก็บสารเคมี 50 ตัน ระเบิดไปแล้ว 20 ตัน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิง แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ขณะเดียวกันกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก

เวลา 06.39 น. เฟซบุ๊กแฟนเพจ FM91 Trafficpro รายงานว่า ยังคงสามารถมองเห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะที่ เพจพระขโนง บางนา รายงานสภาพความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนในบริเวณใกล้เคียงจำนวนมากด้วยเช่นกัน

ราว 08.15 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สั่งประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงโรงงานดังกล่าวในรัศมี 5 กิโลเมตร อพยพด่วน เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ และหวั่นว่าไฟจะลามไปติดถังสารเคมี 20,000 ลิตรที่อยู่ใกล้เคียง

Advertisement

เวลา 09.20 น. จส.100 รายงานการจราจรบนถนนกิ่งแก้วหนาแน่น เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานดังกล่าวที่เกิดไฟไหม้กำลังอพยพตามประกาศของอำเภอ โดยให้ประชาชนไปรวมกันที่โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ และมูลนิธิร่วมกตัญญู

เวลา 10.00 น. ปภ.ส่งเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัย สนับสนุนการดับเพลิง ประกอบด้วย รถหอน้ำ 37 เมตร รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยเพื่อขนโฟมดับเพลิง
ขณะนี้อยู่ในพื้นที่และปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานและอาสาสมัครที่เกี่ยวข้องในพื้นที่แล้ว

Advertisement

ขณะเดียวกันจะได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จำนวน 2 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต 10 นาย เข้าร่วมสนับสนุนการปฏิบัติการ อยู่ระหว่างการบินมาจากลพบุรี

เวลา 11.40 น. มีรายงานว่า บ้านเรือนประชาชน 70 หลัง ได้รับความเสียหาย รถยนต์เสียหาย 15 คัน ประชาชนบาดเจ็บ 15 ราย อาสาสมัครบาดเจ็บ 5 ราย โดยขณะนี้มีจุดอพยพ 5 แห่ง จุดใหญ่คือวัดบางพลีใหญ่

เวลา 12.05 น. สวพ.91 รายงานว่าเพลิงยังไม่สงบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยพยายามอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ มีรายงานพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 รายจากการถูกไฟคลอก ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง ว.10 ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ถอนกำลังออกเวลานี้ เนื่องจากไฟกำลังเข้าใกล้ถังน้ำมันแล้ว

เวลา 13.00 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ต้องใช้เคมีดับเพลิง และประชาสัมพันธ์ประชนชนเลี่ยงการสูดดม กลิ่น ควัน โดยตรง เพราะอาจเกิดอันตรายแก่ทางเดินหายใจได้

เวลา 13.09 น. ศูนย์ติดตามสถานการณ์ ปภ. ระบุว่า สนามบินสุวรรณภูมิให้พื้นที่ ปภ.ตั้งจุดระดมทรัพยากร สนับสนุนการระงับเหตุไฟไหม้ ขณะนี้ได้ระดมรถดับเพลิงโฟมสารเคมีขนาดใหญ่จากศูนย์ ปภ.เขต 1 ปทุมธานี เขต 3 ปราจีนบุรี และเขต 16 ชัยนาท โดยมีปริมาณโฟมดับเพลิงรวมกว่า 25,000 ลิตร พร้อมประสานรถโฟมเคมีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมสนับสนุนดับเพลิง เพื่อเตรียมสำรองโฟมสนับสนุนดับเพลิงอีก 17,000 ลิตร

ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานด้านการป้องกันสาธารณภัยให้ประสานการทำงานกับทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น เพื่อให้การดูแลความปลอดภัยกับประชาชนมีประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 ราย คือนายกรสิทธิ์ ราวพันธ์ วัย 19 ปี หรือพอส ธน 28-78 อาสาสมัครฯหน่วยสมเด็จเจ้าพระยา ธน 28-18 ฐานเทคโน อาทิ

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่กำลังฉีดน้ำสกัดเพลิงถูกไฟคลอกทั้งตัวได้รับบาดเจ็บ สาหัส 3 ราย โดยเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บทั้ง 3 ถูกลำเลียงส่งรักษาที่โรงพยาบาลสนาม อบต.บางพลีใหญ่ จำนวน 2 ราย และถูกส่งโรงพยาบาล
รามา สมุทรปราการ 1 ราย

ขณะเดียวกัน นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า ช่วงบ่ายถึงค่ำ บริเวณ กทม.และปริมณฑล อาจมีฝนเพิ่มขึ้น หากฝนลงไปชะล้างกลุ่มควันเหล่านี้ซึ่งเป็นสารพิษและตกลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบ่อน้ำ อาจส่งผลต่อประชาชนในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค

เวลา 18.55 น. ปภ.ย้ำเตือนการแชร์ข่าวแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบรัศมี 5 กิโลเมตร เป็นรัศมี 10 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ โดย ปภ.ได้ประสานกับจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการยืนยันยังคงเป็นรัศมี 5 กิโลเมตร ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากประกาศเดิม

เวลา 19.00 น. พรรคก้าวไกล ระบุว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ พรรค ก.ก. ร่วมเดินทางไปที่ศูนย์อพยพ อบต.บางพลีใหญ่ เพื่อช่วยเหลือดูแลอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

เวลา 19.15 น. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ติดตามสถานการณ์การระเบิดภายในโรงงานหมิงตี้ต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้สั่งยกเลิกภารกิจทำฝนหลวงแล้ว

เวลา 22.38 น. ทีมโดรน Novy ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเข้าปิดวาล์วถังเคมีได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นเปลวเพลิงยังคงลุกไหม้อยู่เป็นระยะ มีการนำรถดับเพลิงขนาดเล็กที่ผสมโฟมมาฉีดสกัด ประกอบกับลมไม่แรงมาก ทำให้กลุ่มควันเริ่มน้อยลง

เวลา 23.41 น. ศูนย์วิทยุพระราม 199 ได้รับแจ้งจากรองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่า ขณะนี้เพลิงสงบ

ห้วงเวลาเดียวกัน นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯได้วางแผนและประเมินสถานการณ์เพลิงไหม้ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ได้ปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างเต็มกำลังความสามารถ และจนถึงขณะนี้เพลิงได้สงบแล้ว คาดว่าในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่จะเข้าเคลียร์พื้นที่อีกครั้ง

เวลา 00.30 น. วันที่ 6 กรกฎาคม จส.100 รายงานว่า โรงงานหมิงตี้ยังคงมีแสงเพลิงลุกไหม้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ถอนกำลัง และฉีดน้ำลดอุณหภูมิ แม้จะปิดวาล์วได้แล้ว

เวลา 02.50 น. วันที่ 6 กรกฎาคม จส.100 รายงานว่า ร.อ.​ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกระเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ ระบุสั่งการตำรวจต้องเอาพิมพ์เขียวโรงงานจากเจ้าของหรือผู้จัดการมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นเหมือนคนทำงานตาบอด ดับไฟได้แค่ที่เห็น

ราว 03.10 น. วันที่ 6 กรกฎาคม เหตุระเบิดไฟไหม้โรงงานหมิงตี้กินเวลามากกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว โดย จส.100 เปิดเผยว่า แม้เจ้าหน้าที่จะเข้าปิดวาล์วถังเก็บสารเคมีได้แล้ว แต่ยังคงมีไฟคุขึ้นมาเป็นระยะ พร้อมกับควันดำ ยังคงต้องฉีดโฟมและน้ำเพื่อควบคุม

ต่อมา เวลา 03.45 น. เจ้าหน้าที่พาหัวหน้าคนงานโรงงานหมิงตี้มาชี้จุดและอธิบายผังโรงงาน เพื่อให้การควบคุมเพลิงทำได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เวลา 05.20 น. จส.100 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าดับเพลิงได้แล้ว แต่ยังคงต้องฉีดน้ำลดอุณหภูมิ พร้อมย้ำว่าประชาชนที่อพยพออกไปอย่าเพิ่งกลับเข้ามา แม้ว่าจะดับเพลิงได้แล้ว แต่ยังคงมีควันจากสารเคมีที่อันตรายต่อร่างกาย

เวลา 07.22 น.ที่ผ่านมา สวพ.FM91 รายงานว่า เพลิงได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง เกิดกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งใช้น้ำและโฟมเข้าควบคุมเหตุการณ์

ทั้งนี้ เหตุที่เพลิงปะทุขึ้นอีกนั้น เกิดจากสารเคมีที่ยังตกค้างหลงเหลือในชั้นพื้นดิน สามารถคุมเพลิงได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังปักหลักในจุดเกิดเหตุเพื่อรอฉีดโฟมหากมีการปะทุขึ้นอีก ส่วนกรณีวาล์วถังสารเคมียืนยันว่าปิดได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เวลา 08.36 น. สวพ.FM91 เผยภาพมุมสูง มองไปทางจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริษัทหมิงตี้เคมีคอล ซอยกิ่งแก้ว 21 ตอนนี้ไม่มีกลุ่มควันสีดำแล้ว

ภาพถ่ายเมื่อเวลา 08.36 น. วันนี้ ไม่ปรากฏควันดำแล้ว

ภาพเหตุการณ์ระหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม ต่อเนื่อง 6 กรกฎาคม

ผู้ว่าฯสมุทรปราการเข้าพื้นที่
ภาพโดย “โก๋ หลังวัง PK16”
ภาพโดย “โก๋ หลังวัง PK16”
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image