ศูนย์วัคซีนบางซื่อ ขออภัย! คนรอคิวฉีดแน่น-จองคิวผ่านค่ายมือถือ ยันแค่เก็บตกในกรุงเท่านั้น
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ทั้งการวอล์ก อิน (Walk-in) และ การลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นจุดฉีดวัคซีนเสริม ซึ่งก่อนอื่นต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชน 2 เรื่อง ประการแรกในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีภาพความแออัดในการเข้ารับบริการวัคซีน เพราะเราเปิดให้กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม และหญิงตั้งครรภ์ให้วอล์ก อินได้ เราจัดเวลาไม่ได้ แต่วันนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว ต้องกราบขออภัยในภาพที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจในพี่น้องประชาชน
“ส่วนประการที่ 2 เมื่อช่วงเช้าวันนี้เดิมจะเปิดให้ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนผ่านค่ายมือถือ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในเรื่องจำนวนการเติมวัคซีนที่บางซื่อ จึงต้องมีการพูดคุยภายใน ทำให้ต้องเลื่อนเวลาการลงทะเบียนผ่านเครือข่ายมือถือทั้ง 4 ค่ายจาก 09.00 น. เป็นเวลา 11.00 น. วันนี้ (29 ก.ค.) ต้องกราบขออภัยในความไม่สะดวก เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดในเรื่องการฉีดวัคซีน” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับไทม์ไลน์การให้บริการฉีดวัคซีน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เริ่มดำเนินการจริงๆ วันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งยังไม่ถึง 2 เดือน แต่ดำเนินการฉีดวัคซีนไปแล้ว 1 ล้านโดส ซึ่งหลังจากนั้นมีการรายงานผู้เสียชีวิตคือ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคร่วม เราจึงขออนุญาตฉีดในกลุ่มเปราะบาง คือ อายุ 65 ปีขึ้นไปมาออนไซต์ในวันที่ 5 ก.ค.64 ก็พบว่ามีจำนวนมาก เราจึงขอปรับการวอล์กอิน เป็นอายุ 75 ปีขึ้นไป เพราะเมื่ออายุมากขึ้นจำนวนจะลดลง และจะสามารถจัดระบบไม่แออัดได้ พอมาวันที่ 22 ก.ค. ซึ่งเป็นเวลา 10 วัน เราเห็นว่ากลุ่มอายุ 75 ปีได้รับการฉีดค่อนข้างครอบบคลุม ก็จะตรงกับข้อมูลที่กรมควบคุมโรครายงานว่า ผู้สูงอายุในกทม.ฉีดไปแล้วเกือบ 80% เราจึงมาฉีดในกลุ่มที่เรียกว่า 602 คือ กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ และกลุ่มน้ำหนักเกิน 100 กก. จึงมีภาพความแออัดในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา โดยเราก็พยายามปรับวิธีการทำจุดมาร์ก แต่ไม่ได้ผล เพราะคนมาเยอะ ซึ่งเราก็ขอให้คนน้ำหนักเกินให้มาช่วงบ่าย อย่ามาช่วงเช้า เพราะเมื่อพิจารณาช่วง 10 โมงจะเริ่มโล่งขึ้น ส่วนใหญ่จะมามากช่วงเช้า
“ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เพื่อให้การบริการเป็นระบบ จะไม่มีการออนไซต์ โดยเปลี่ยนมาเปิดให้มีการลงทะเบียนแทน ซึ่งจริงๆ การเปิดลงทะเบียนจองการฉีดทำตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทุกวันนี้ก็มีมารับบริการ แต่ครั้งนี้ขอเน้นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปมาก ส่วนกลุ่มอายุ 18 ปี-60 ปี จะลดลง โดยเราได้หารือกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือแล้ว ซึ่งเมื่อมีการลงทะเบียนจะระบุชัดว่า ช่วงเวลาไหน รับจำนวนเท่าไร ซึ่งเข้าใจว่าตอนนี้มีการลงทะเบียนมามากพอสมควร หรืออาจเต็มจำนวนแล้ว” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีหน่วยบริการฉีดวัคซีน ทั้งรัฐ เอกชน หรือในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น แต่สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ตามนโยบายเป็นการฉีดวัคซีนแบบเก็บตก ฉีดให้แก่ 1.ผู้ที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ 2.ผู้ที่ทำงานในกรุงเทพฯ ที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด 3.ผู้สูงอายุในกรุงเทพฯและปริมณฑล (มีภูมิลำเนาชัดเจน) 4. ผู้ไร้บ้าน และ 5.เมื่อฉีดวัคซีนครอบคลุมคนไทยก็จะมีการฉีดให้ชาวต่างชาติ ซึ่งเปิดไปเมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเน้นชาวต่างชาติที่มีอายุเกิน 60 ปี ที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย จึงเป็นนโยบายที่พยายามเก็บตกในพื้นที่กทม. และปริมณฑลในกลุ่มผู้สูงอายุ
“แนวทางลดความแออัด ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อนั้น เรามีการดำเนินการต่างๆ ทั้งเปิดประตูศูนย์ฯ ให้เร็วขึ้น จากเดิมประมาณ 09.00 น. และคนที่ลงทะเบียนมาแล้วปัจจุบันไม่ต้องวัดความดัน ยกเว้น คนไม่สบายใจหรือมีปัญหาความดันโลหิตก็วัดได้ ปรับระบบการเข้าแถวให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ให้หางแถลงแต่ละประตูชนกัน ย้ายที่จอดรถมอเตอร์ไซต์ (ประตู4) เน้นให้ยืนบนสติกเกอร์ 2,400 จุด เป็นต้น” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการแฮกเครือข่ายโทรศัพท์ในการขายสิทธิฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และจริงหรือไม่ที่มีเจ้าหน้าที่กรมเกี่ยวข้อง นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทางผู้อำนวยการสถานีกลางบางซื่อได้รายงานเรื่องนี้ว่า สงสัยมีความผิดปกติในการมารับบริการ โดยเฉพาะช่วงท้ายๆ วัน เหมือนมีคนลงทะเบียนผ่านค่ายมือถือ โดยมีการแสดความผิดปกติบางอย่าง เช่น รีบร้อน จึงมีการหากระบวนการตรวจจับตรงนี้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับค่ายมือถือค่ายนั้น โดยค่ายมือถือนี้ได้มีการคอนแท็กเอ้าท์ ให้บริษัทย่อย ให้คนมาช่วยจัดคิว และลงทะเบียน ซึ่งพบว่ามีค่ายเดียวเท่านั้นที่มีปัญหา
“เราก็ร่วมกับทางค่ายมือถือในการล่อซื้อ เมื่อวานพบว่ามีประมาณ 100 คนเข้ามา เราก็ปล่อยให้เข้ามาตามระบบ จากนั้นเรายกเลิกทันที เพื่อให้เจ้าตัวมาแสดงตัวว่าไม่ได้ฉีด เพราะคนที่ถูกยกเลิก เขาเสียหาย เขาก็จะมาแสดงตัว จากนั้นเราให้บันทึกข้อความ เล่าว่า ติดต่อผ่านใคร โดยพบว่า เป็นลูกจ้างที่ถูกจ้างมาอีกทอดของค่ายมือถือ ซึ่งที่บอกว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรม ผมไม่ทราบข้อมูล แต่เมื่อวานได้แจ้งความแล้ว โดยให้ให้ทางผอ.กลุ่มคุ้มครองจริยธรรม ของกรมการแพทย์และผอ.ศูนย์บางซื่อไปแจ้งความ และคุยกับตำรวจรถไฟร่วมกันแจ้งความ และกันพยาน ซึ่งเป็นคนที่เสียเงินซื้อวัคซีนมาให้ข้อมูล เพื่อเอาผิดคนทำให้ถึงที่สุด” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์เกี่ยวข้องหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนเจ้าหน้าที่กรมยังไม่ทราบ หากมีจะไม่ละเว้น เพราะความเจ็บป่วยซื้อขายไม่ได้ หากมีเจ้าหน้าที่กรมเกี่ยวข้อง จะตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง และสืบสวนลงโทษ แต่ขณะนี้ยังไม่มี พบแต่เจ้าหน้าที่ที่ถูกจ้างมาโดยค่ายมือถือไปเติมทะเบียนของผู้ที่จะมารับวัคซีนเอง
