ผอ.สำนักแพทย์ กทม.แจงปม รพ.ให้คนไข้ปวดท้องรอจนดับคารถเข็น รับโควิดทำบุคลากรไม่พอ

ผอ.สำนักแพทย์ กทม.แจงเคส รพ.ปล่อยคนไข้ปวดท้องรอจนเสียชีวิตคารถเข็น รับโควิดทำบุคลากรไม่พอ เร่งปรับแผนให้บริการ-เยียวยาครอบครัว

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา บอกเล่าเรื่องราวที่พาลูกชายไปส่งโรงพยาบาล (รพ.) แห่งหนึ่งย่านคลองสาน กรุงเทพมหานคร เนื่องจากลูกชายมีอาการปวดท้องหนัก แต่พยาบาลกลับไม่รับเข้ารักษาทันที คนไข้ต้องนั่งรอบนรถเข็นหลายชั่วโมง สุดท้ายสิ้นใจระหว่างรอ ซึ่งต่อมามีกระแสข่าวว่าเป็นโรงพยาบาลตากสิน ในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอีกครั้ง หลังทราบเรื่องดังกล่าว ได้ตรวจสอบและทราบว่า รพ.ย่านคลองสาน ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปยังสำนักการแพทย์ กทม.เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ป่วยเป็นชายอายุ 21 ปี ไปที่ รพ. ในวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 21.35 น.ด้วยอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว และได้มีการยื่นบัตร หลังจากนั้นผู้ป่วยได้ไปห้องน้ำ 2-3 ครั้ง จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.05 น. มีคนแจ้งพยาบาลว่า “ผู้ป่วยหมดสติ” เจ้าหน้าที่จึงได้รีบออกมาดูและได้นำตัวผู้ป่วยเข้าไปปฏิบัติการกู้ชีวิต แต่ไม่สามารถกู้ชีวิตได้และเสียชีวิตในเวลา 23.39 น.

“ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวคือ ตั้งแต่เวลา 21.35-23.05 น.รวมระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง มีคนไข้ไปที่ รพ.ดังกล่าวค่อนข้างมาก มีคนไข้ไปรอคิวรับการตรวจ 29 ราย โดยผู้เสียชีวิตเป็นลำดับที่ 27 ส่วนในห้องฉุกเฉินมีผู้ป่วยฉุกเฉิน 9 ราย มีผู้ป่วยหนัก 7 ราย และมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รับกลับจากฮอสปิเทล (Hospitel) อีก 2 ราย รวมแล้ว 18 ราย ทำให้ต้องใช้บุคลากรจำนวนมาก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ส่วนหน้า ที่ทำหน้าที่ในการคัดกรอง ซักประวัติ และวัดสัญญาณชีพ วัดความดัน ไม่เพียงพอ เพราะต้องไปช่วยดูแลผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินด้วย จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ รพ.ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่ด้วยภาระงานของบุคลากร และเจ้าหน้าที่ของ รพ.มีมากขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 เพราะต้องจัดกำลังไปดูแลผู้ป่วยในศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อผู้ป่วย รพ.สนาม และฮอสปิเทล ประกอบกับห้องฉุกเฉินของ รพ.หลายๆ แห่งปิด แต่ รพ.ในสังกัด กทม.ทั้ง 11 รพ.ไม่ได้สั่งปิด เพราะยังมีผู้ป่วยที่ต้องให้บริการรักษาอยู่ จึงมีผู้ป่วยเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก” นพ.สุขสันต์ กล่าว

ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จึงได้นำปัญหามาศึกษาวิเคราะห์หาสาเหตุ จนพบว่าเป็นเพราะบุคลากรไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที้เพิ่มขึ้นในช่วงเวลานั้น ดังนั้น จึงได้กำชับและวางแผนให้ รพ.ในสังกัด กทม.ทุกแห่ง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอในการบริการด้านหน้า

Advertisement

“โดยหลังจากที่ผู้ป่วยยื่นบัตรแล้วไม่ควรให้รอเกิน 15-30 นาที จะต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการซักประวัติ คัดกรองเบื้องต้นผู้ป่วยก่อน และหากพบว่าหลังจากนั้นผู้ป่วยยังไม่ได้รับการรักษา ต้องเข้ามาซักถามอาการเป็นระยะ เพื่อคัดกรองและประเมินอาการด้วย เพื่อจะได้ส่งรักษาได้ทันเวลา โดยไม่ใช่เฉพาะ รพ.ที่เกิดปัญหา แต่ให้ รพ.อื่นๆ ในสังกัดสำนักการแพทย์ กทม. ปฏิบัติตามแนวทางนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งกำชับไม่ให้เกิดขึ้นเหตุการณ์เช่นนี้อีก รวมทั้งกำชับให้ รพ.มีการดูแลประชาชนด้วยความละเอียดรอบคอบ และเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอด้วย” นพ.สุขสันต์ กล่าว

นพ.สุขสันต์ กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้ รพ.ในสังกัด กทม.มีภาระงานเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจำนวนเตียงเดิมมีรวม 2,100 เตียง แต่ขณะนี้เพิ่มขึ้นทั้งใน รพ.หลัก รพ.สนาม และฮอสปิเทล รวมทั้งหมดประมาณ 6,000 เตียง เรียกว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว แต่จำนวนบุคลากรยังเท่าเดิม เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าว จึงต้องขออภัยประชาชนด้วย แต่กำลังเร่งแก้ไขในส่วนนี้อย่างเต็มที่

“อย่างไรก็ตาม ทราบว่าหลังเกิดเหตุการณ์ทาง รพ.ได้โทรศัพท์ติดต่อพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ รพ.ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับผู้เสียชีวิตด้วยวิธีอาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR) แล้วมีผลเป็นลบ จึงได้ส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป” นพ.สุขสันต์ กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้ กทม.จะมีการเยียวยาให้กับครอบครัวผู้สูญเสียหรือไม่ นพ.สุขสันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการเยียวยาตามมาตรา 41 แต่ในส่วนของการเยียวยาเพิ่มเติมอื่นๆ นั้น ต้องขอเวลาให้ รพ.ได้ประสานไปทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตเพื่อดำเนินการดูแลช่วยเหลือกันต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image