ก.วิทย์ปลื้มสตาร์ต อัพ แรงเกินคาดร้านอาหารพุ่ง2ปีขายได้3ล้านจานขยายเส้นทาง “กลุ่มลุง-ป้า”

ระหว่างวันที่ 16-17 กันยายน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) จัดงาน สตาร์ต อัพ ไทยแลนด์ & ดิจิตอล ไทยแลนด์ ภูมิภาค 2016 ที่ โรงแรม ณ ดวงจิตต์ จ.ภูเก็ต โดยภายในงานจะมีผู้ประกอบการ นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ทำธุรกิจ สตาร์ต อัพ หรือธุรกิจแนวใหม่ ที่ต้องอาศัยนวัตกรรม และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเข้ามาช่วยสำหรับกิจการของตัวเอง และประชาชนที่สนใจ เข้าร่วมงาน และร่วมแสดงนิทรรศการกว่า 4,500 คน โดย เมื่อวันที่ 16 กันยายน นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันท์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน และได้ประกาศ ส่งเสริมการทำธุรกิจสตาร์ต อัพเต็มรูปแบบ และผลักดันให้ จ.ภูเก็ต ไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิตอล เพื่อรองรับการทำธุรกิจแบบสตาร์ท อัพ เพื่อที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ของผู้อยู่อาศัย ให้มีความปลอดภัย และสะดวกสบายในการดำรงชีวิตยิ่งขึ้น ภายหลังจากก่อนหน้านี้ ได้ไปจัดงานดังกล่าวนี้มาแล้ว ที่กรุงเทพ เชียงใหม่ และ จ.ขอนแก่น

นายตุลยฤทธิ์ กาญจนกุล อายุ 33 ปี ชาว จ.ภูเก็ต เจ้าของกิจการสตาร์ต อัพ ซึ่งทำแอฟพลิเคชันที่รวบรวมร้านอาหารจากทั่วประเทศมาไว้ในเว็บไซด์ www.afourleaf.com ซึ่งนำงานของตัวเอง มาจัดนิทรรศการและแสดงผลงานภายในงานดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ว่า งานของตนเริ่มจากแนวคิดที่ว่า การทำร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จนั้นแม้จะมีฝีมือแค่ไหน อร่อยเพียงใด แต่หากระบบ บริหารจัดการร้านไม่ดี มีภาระ ที่ต้องแบกรับมากมาย ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่การอยู่รอด เพราะปัจจุบันนี้ร้านอาหารหลายแห่งต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมากมาย เช่น ค่าหน้าร้าน ค่าจ้างลูกจ้าง การจัดการเรื่องสต็อก และต้นทุนภายในร้าน รวมทั้งความเสี่ยงด้านอื่นๆอีก จึงได้ทำตัวแอ็ฟพลิเคชัน การเข้าไปจัดการเรื่องเหล่านี้ภายในร้านอาหารขึ้นมา นับตั้งแต่เรื่อง การจัดการสต็อก หรือวัตถุดิบภายในร้าน การบริหารต้นทุนกำไร การหาลูกค้าให้ ปรากฏว่าเวลานี้มีร้านอาหารจากทั่วประเทศที่เข้ามาลงทะเบียนใช้บริการแอฟพลิเคชันของตนจำนวนมาก คิดเป็นปริมาณอาหารตามจำนวนจาน ที่ลูกค้าจากทั่วประเทศคลิ๊กเข้ามาซื้อ และสั่งผ่าน www.afourleaf.com กว่า 3.2 ล้านจานด้วยกัน

“ลูกค้าของเรามีตั้งแต่ร้านอาหารตามสั่งข้างถนน ร้านขายผลไม้ในตลาดนัด ภัตตาคาร ไปจนถึงโรงแรม 5 ดาว วิธีการที่จะเข้ามาร่วมกับเราคือ เข้าไปในเว็บไซต์ ลงทะเบียนกับเรา เราจะโทรกลับไปคุยในรายละเอียด วางแผน ทำเมนูให้เหมาะสมกับแต่ละร้านแต่ละประเภท เมื่อทำระบบให้แต่ละร้านเสร็จ สำหรับร้านที่เป็นสมาชิกก็จะมีเครื่องพิมพ์ที่สายตรงกับเราโดยตรง นั้นคือ ในเว็บของเราจะมี สารพัดเมนูอาหาร สารพัดประเภท ราคาตั้งแต่ 35 บาทไปถึงจานละเป็นพันบาท มีอยู่เกือบทุกพื้นที่ให้ทุกคนเข้าไปเลือกใช้บริการ เช่น บ้านอยู่ แถวคลองหลวง จ.ปทุมธานี อยากจะกินแตงโม ที่ตลาดไทย เราก็มีสมาชิกที่ขายแตงโมอยู่ที่นั่น ใครคลิ๊กเข้าไปสั่งซื้อ ร้านที่เป็นสมาชิกของเราก็พร้อมที่จะส่งแตงโมไปให้กินทันที หรือบ้านอยู่ประชานิเวศน์ เขตจตุจักร อยากจะกินกระเพราหมูกรอบ เราก็มีร้านอาหารที่เป็นสมาชิกของเรา ที่พร้อมจะไปส่งข้าวกระเพราหมูกรอบเช่นเดียวกัน”นายตุลยฤทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า คนที่ไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย เล่นอินเตอร์เน็ต ใช้แอฟพลิเคชั่นไม่เป็น จะสามารถเข้ามาใช้บริการ หรือรวมเป็นสตารตอัพในธุรกิจประเภทร้านอาหารเช่นนี้ได้หรือไม่ นายตุลยฤทธิ์ กล่าวว่า ตอนแรกก็หนักใจในเรื่องเช่นนี้เหมือนกัน ว่าคนที่ไม่สนใจและใช้อินเตอร์เน็ตไม่ได้ หรือกระทั่งคนต่อต้านวิทยาการ จะมารู้จักและร่วมธุจกิจของเราได้หรือไม่ แต่ปรากฏว่าทุกวันนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ของตัวเองกลับกลายเป็นคนที่ไม่เคยสนใจอินเตอร์เน็ตมาก่อน รวมทั้งไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายทางด้านนี้เลย

Advertisement

“น่าแปลกใจครับลูกค้าของเราส่วนใหญ่เลย กลับกลายเป็นป้าๆ เจ้าของร้านอาหารทั้งขนาดเล็กๆ ขนาดกลางๆ อยู่ข้างถนน อยู่ในตลาดสด คนเหล่านี้ เล่นเป็นอย่างมากก็แช็ตไลน์ ที่ทักทายเพื่อนๆลูกๆหลานๆเล่น หรือเปิดเว็บไซต์อ่านโน่นนี่แก้เหงา แต่เมื่อเข้ามาดูในเว็บของเราก็ชอบใจ เข้ามาเป็นสมาชิก จนเวลานี้ กว่า 3 ปีแล้ว ลุงๆป้าๆเหล่านั้น ก็ยังอยู่กับเรา และไม่มีร้านไหนสักร้านที่ปิด หรือหยุดทำกิจการ มีแต่จะมีลูกค้ามาใช้บริการอยู่เรื่อยๆ ซึ่งลูกค้า ของลูกค้าของเราก็คือ บุคคลทั่วไปที่เข้ามาดูเว็บไซต์และสั่งอาหารไปรับประทานนั่นเอง”นายตุลยฤทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า แล้วตัวเจ้าของแอฟพลิเคชัน หรือ ตัวสตาร์ต อัพหลักนั้นจะมีรายได้จากทางไหน นายตุลฤทธิ์ กล่าวว่า มีรายได้จากการจ่ายค่าเป็นสมาชิกของร้านอาหารเหล่านั้น ซึ่งคิดค่าบริการรายปีๆละ 7,200 บาท เดือนละ 600 บาท หรือ วันละ 20 บาทเท่านั้น ซึ่งนับแต่ทำงานด้านนี้มา ยังไม่เคยมีร้านอาหารร้านใดบอกเลิกการเป็นสมาชิกเลย รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง ที่มีส่วนช่วยเหลือ ทำให้ธุรกิจร้านอาหารมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น

ด้านนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรี วท.ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเกินคาด ที่เทคโนโลยี และนวัตกรรมสามารถเจาะเข้าไปในอีกกลุ่มที่ไม่เคยคิดว่าจะเข้าไปถึงได้ ซึ่งกลุ่มป้าๆที่เข้ามาร่วมเป็นสตาร์ตอัพเหล่านี้ก็จะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยเสริมความเป็นสตาร์ต อัพ ในประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเป้าหมายหลักที่จะส่งเสริมให้ ธุรกิจในรูปแบบสตาร์ต อัพขยายตัวไปมากกว่านี้ คือ กลุ่มเยาวชน หนุ่มสาว โดย จะให้มหาวิทยาลัยที่สนใจเข้าร่วม เขียนโครงการเข้ามา เพื่อให้ทางคณะกรรมการที่วท.จะตั้งขึ้นมาเร็วๆนี้ทำการคัดเลือก โดยในปี 2560 วท.จะทำงานในเชิกรุกเรื่องสตาร์ตอัพเต็มรูปแบบ จะร่วมกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศที่มีความพร้อมในเรื่องนี้ โดยเวลานี้ทางวท.ได้รับงบประมาณมาแล้ว 1,200 ล้าน บาท สำหรับการสนับสนุน การทำ สตาร์ต อัพ ในมหาวิทยาลัย ทั่วประเทศ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image